ศูนย์ข่าวศรีราชา - สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เตรียมปิดระบบการให้บริการด้วยกระดาษมาใช้ระบบทางอิเล็กทรอนิกส์ 1 พ.ค.นี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ-ลดค่าใช้จ่ายการให้บริการผู้ประกอบการขนส่งสินค้า
วันนี้ (24 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายสมศักดิ์ พจน์ปฏิญญา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ร่วมเป็นประธานในพิธีการสัมมนาระบบพิธีการและตรวจปล่อยสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้ประกอบการและเจาหน้าที่ร่วมสัมมนากว่า 350 คน
การจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการขนส่งและนำเข้าสินค้า มีความพร้อมที่มาใช้บริการนำเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยผ่านพิธีการศุลกากรนำเข้าทางอิเล็กทรอนิกส์ แบบไร้เอกสาร (e-Import) เนื่องจากในวันที่ 1 พ.ค.2551 นี้ ทางศุลกากรจะปิดระบบการใช้เอกสาร (EDI) เพื่อใช้ระบบ (e-Import) เต็ม 100%
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมากรมศุลกากร ดำเนินการจัดเก็บภาษีและการควบคุมตรวจสอบและตรวจปล่อยสินค้า โดยการตรวจสอบจากเอกสารหลักฐานที่ยื่นมาด้วยขั้นตอนระบบ Manual ซึ่งก่อให้เกิดความล่าช้า ดังนั้น เจ้าหน้าที่มีการใช้ดุลพินิจจากระบบที่ไม่ชัดเจน มีการร้องเรียนจากผู้ประกอบการหรือตัวแทนออกสินค้า จึงเกิดข้อครหาความไม่โปร่งใส
หลังจากมีข้อครหาต่างๆ นานา กรมศุลฯ จึงแก้ไขปัญหาและเปลี่ยนแนวคิด โดยปรับกระบวนงานพิธีและตรวจสอบปล่อยสินค้า ด้วยการนำเทคโนโลยี่คอมพิวเตอร์มาใช้ในการผ่านพิธีการปล่อยสินค้าด้วยระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ มาประยุกต์ใช้แทนการลงนาม และประทับตราในเอกสาร ซึ่งทำให้สามารถอำนวยความสะดวกรวดเร็ว และควบคุมทางศุลกากรได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาศุลกากรฯ ได้ดำเนินการทดลองรูปแบบใหม่มาหลายเดือนแล้ว ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการกว่า 70% และคาดว่าภายในสิ้นปี 2551 นี้ จะเข้าสู่ระบบ 100% อย่างแน่นอน และที่เหลือที่ยังไม่เข้าระบบนั้น อยู่ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีการทางศุลกากร ประมาณ 30 หน่วยงาน และขณะนี้ก็เริ่มปรับตัวแล้วหลายหน่วยงาน เพื่อให้สามารถเข้าสู่ระบบดังกล่าว
สำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ที่ยังไม่สามารถเข้าสู่ระบบ ทางศุลกากรได้เตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ โดยจัดตั้ง Service Counter การจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษา Contact Point พร้อมการฝึกอบรมบุคลากร เป็นต้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กอีกแล้วทางหนึ่ง
จากการปรับเปลี่ยนระบบดังกล่าว ขณะนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เข้ามาทำการศึกษาวิจัย รูปแบบ ถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบนั้น เกิดประโยชน์ต่อผู้ประกอบการมากน้อยเพียงไร, มีการประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างไร และดีหรือไม่อย่างไรกับระบบใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยทางมหาวิทยาลัยให้ความสนใจเข้ามาศึกษาวิจัย โดยทางศุลกากรพร้อมให้การสนับสนุนเพื่อให้การศึกษาวิจัยสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น