ส.ส.ถูกถอนหงอก นักศึกษาตอกกลับหากมีการกล่าวคำหยาบคายบนเวทีพันธมิตรฯ จริง เหตุการณ์กระโดดถีบวันนี้ ก็สะท้อนว่า นักศึกษาพูดถูก จี้ให้ระบุตัวบุคคลให้ชัดว่าใครพูดคำหยาบ เพราะก่อนขึ้นเวทีคุยกันแล้วว่าจะระมัดระวังถ้อยคำ และ “ขออภัย” หากมีคำไม่เหมาะสมออกไปจริง
จากที่ นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชาชน ได้กล่าวในที่ประชุมรัฐสภา ว่า มีกลุ่มการเมืองไปใช้หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ในการอภิปราย โดยด่าคนนั้นคนนี้ รวมถึง ครม.และ ส.ส.ทั้งหมด โดยอ้างว่าเป็นการสัมมนา แต่จริงๆ แล้วกลับให้นักศึกษาใช้คำพูดไม่สุภาพ มีการด่า ส.ส.ทั้งหมด ว่า ส.ส.สระเอีย หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า ใช้คำพูดที่ “ถ่อย” จึงขอฝากให้กระทรวงศึกษาธิการมาดูแลด้วยว่าอธิการบดีคนไหนไม่เป็นกลางทางการเมือง
นายยศ ตันสกุล นิสิตคณะสังคมศาสตร์ ปี 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่ขึ้นสัมมนาเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง “เสียงสะท้อนคนรุ่นใหม่...จะฝ่าข้ามการเมืองที่น่าอึดอัด เบื่อหน่าย และไร้ความหวังได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา กล่าวว่า ตนคงต้องกลับไปดูคลิปในวันนั้นว่ามีนักศึกษาคนไหนพูดคำนั้นออกมาหรือไม่ แต่หากบอกว่า ส.ส.สระเอีย ก็อ่านว่า “เสีย” ไม่ถือเป็นคำหยาบ แต่หากมีการกล่าวคำพูดหยาบคายบนเวทีออกมาจริง ก็ต้องขออภัย ด้วยประสบการณ์ที่ยังน้อยอาจทำให้นักศึกษากล่าวคำไม่เหมาะสมออกไป แต่การที่นักศึกษาไปร่วมสัมมนาในวันดังกล่าว ก็ด้วยความหวังดีต่อชาติ บ้านเมือง อยากให้มีนักการเมืองที่มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งก่อนขึ้นเวทีก็ได้พูดคุยกันแล้วว่าจะระมัดระวังว่าไม่พูดคำหยาบคาย
“หากในการสัมมนามีนักศึกษาคนใดพูดคำหยาบคายคำนั้นออกมา ก็ขอให้ ส.ส.ระบุเลยว่าเป็นนักศึกษาคนไหน และแม้ว่าจะมีการกล่าวคำหยาบคำนั้นออกมา เหตุการณ์ที่ ส.ส.ใช้กำลังกระโดดถีบและด่าทอ ส.ส.ด้วยกันในวันนี้ ก็สะท้อนให้เห็นแล้วว่า คำพูดของนักศึกษาในวันนั้นเป็นจริงอย่างไร การพูดคำหยาบอาจจะไม่เหมาะสมแต่ก็ยอมรับได้มากกว่าการที่ ส.ส.ใช้กำลัง ซึ่งผมและคนไทยคงยอมรับไม่ได้”
นายยศ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการอภิปรายในสภา ว่า ให้กระทรวงศึกษาธิการไปตรวจสอบอธิการบดีว่าอาจจะมีคนที่ไม่เป็นกลางนั้น ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีชื่อเสียงโดดเด่นเรื่องกิจกรรมการเมืองมาตั้งแต่ในอดีต ซึ่งผู้บริหารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็บอกมาตลอด ว่าพร้อมให้กลุ่มการเมืองทุกกลุ่มเข้าใช้พื้นที่ใน มธ.หากปฏิบัติตามระเบียบของ มธ. และหากสถานที่ที่ขอใช้ไม่ติดงานอะไร ซึ่งสังคมก็ควรจะได้รับข้อมูลข่าวสารครบถ้วน และเยาวชนก็ต้องได้รับข่าวสารทั้ง 2 ด้านเช่นกัน
