แพร่ – นายก อบต.หนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่แล้ว หลังศาลอุทธรณ์ภาค 5 รับคำร้องของ กกต.จังหวัด ที่ส่งสำนวนสอบสวนระบุพบมีพฤติกรรมทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขณะที่เจ้าตัวยังยืนยันความบริสุทธิ์ เตรียมปรึกษามือกฎหมายดิ้นสู้
รายงานจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า นายสมศักดิ์ แก้วร่วมวงศ์ รองเลขานุการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ส่งหนังสือแจ้งถึงเทศบาลตำบลหนองม่วงไข่ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องว่านายขจร ธรรมไชยางกูร นายกเทศมนตรีตำบลหนองม่วงไข่ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีการจัดสรรเงินงบประมาณให้องค์กรสาธารณะคือ สมาชิกองค์การทหารผ่านศึก ที่อยู่ใน เทศบาลตำบลหนองม่วงไข่ ในขณะที่อยู่ระหว่างหมดวาระตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 แก้ไขเพิ่มเติม 2546 ในมาตรา 57 ( 2 ) ซึ่งศาลได้รับคำร้อง เพื่อให้นายขจร ธรรมไชยางกูร ที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีอยู่รับทราบเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่อไปหรือถ้าไม่พอใจก็สามารถยื่นคัดค้านได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันรับสำเนาคำร้อง
จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้นายขจร ต้องยุติบทบาทการบริหารงานในเทศบาลในทันทีที่ศาลรับคำร้องของ กกต. นกว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
นายประยูร จักรภัทรกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดแพร่เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลหนองม่วงไข่ที่ผ่านมา นายประยูร เป็นอดีตนายกเทศมนตรีมาก่อนแล้ว 1 สมัย และหมดวาระลงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2550 ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ในระหว่างก่อนหมดวาระ 60 วัน นายกเทศมนตรีจะต้องหยุดการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ซึ่งพบว่า มีการทำพิธีมอบเงินให้กับสมาชิกองค์การทหารผ่านศึกไปก่อนตามกฎหมาย แต่มีการโอนเงินกันในช่วงที่กฎหมายระบุห้ามไว้และมีผู้ร้องเรียน ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงต้องนำมาพิจารณา
ในที่สุดได้ส่งสำนวนสอบสวนไปยังศาล ซึ่งถ้าเป็นนักการเมืองระดับ ส.ส. ส.ว. จะต้องส่งไปยังศาลฏีกา แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองท้องถิ่นจึงได้ส่งไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 5 ถนนซูปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลำปาง ตำบลวัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งศาลได้รับคำร้องดังกล่าวและได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องแล้ว ผู้ถูกร้องถ้ายังดำรงตำแหน่งอยู่จะต้องหยุดกิจกรรมการทำหน้าที่บริหารไว้ก่อน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 240 เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้วินิจฉัยสั่งการเป็นอย่างใดแล้ว ให้เสนอต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยโดยพลันและให้นำมาตรา 239 วรรคสอง และ วรรคสามมาใช้บังคับกับการที่สมาชิกวุฒิสภาผู้นั้นไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้โดยอนุโลม ทำให้ต้องหยุดการบริหารไว้ก่อนตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลรับคำร้องการกล่าวโทษดังกล่าวนายขจรยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองที่ไม่ได้กระทำการทุจริตหรือทำผิดกฎหมายเลือกตั้งดังกล่าว โดยได้เข้าหารือกับนายสุขุม กันกา อดีตรองนายก อบจ.แพร่ นักกฎหมายชื่อดังของจังหวัดแพร่ เพื่อหาทางอุทธรณ์คำร้องดังกล่าวต่อไปแล้ว
รายงานจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า นายสมศักดิ์ แก้วร่วมวงศ์ รองเลขานุการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ส่งหนังสือแจ้งถึงเทศบาลตำบลหนองม่วงไข่ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องว่านายขจร ธรรมไชยางกูร นายกเทศมนตรีตำบลหนองม่วงไข่ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยมีการจัดสรรเงินงบประมาณให้องค์กรสาธารณะคือ สมาชิกองค์การทหารผ่านศึก ที่อยู่ใน เทศบาลตำบลหนองม่วงไข่ ในขณะที่อยู่ระหว่างหมดวาระตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้ผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 แก้ไขเพิ่มเติม 2546 ในมาตรา 57 ( 2 ) ซึ่งศาลได้รับคำร้อง เพื่อให้นายขจร ธรรมไชยางกูร ที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีอยู่รับทราบเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่อไปหรือถ้าไม่พอใจก็สามารถยื่นคัดค้านได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันรับสำเนาคำร้อง
จากกรณีดังกล่าวส่งผลให้นายขจร ต้องยุติบทบาทการบริหารงานในเทศบาลในทันทีที่ศาลรับคำร้องของ กกต. นกว่าศาลจะมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
นายประยูร จักรภัทรกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดแพร่เปิดเผยว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลหนองม่วงไข่ที่ผ่านมา นายประยูร เป็นอดีตนายกเทศมนตรีมาก่อนแล้ว 1 สมัย และหมดวาระลงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2550 ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ในระหว่างก่อนหมดวาระ 60 วัน นายกเทศมนตรีจะต้องหยุดการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ซึ่งพบว่า มีการทำพิธีมอบเงินให้กับสมาชิกองค์การทหารผ่านศึกไปก่อนตามกฎหมาย แต่มีการโอนเงินกันในช่วงที่กฎหมายระบุห้ามไว้และมีผู้ร้องเรียน ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงต้องนำมาพิจารณา
ในที่สุดได้ส่งสำนวนสอบสวนไปยังศาล ซึ่งถ้าเป็นนักการเมืองระดับ ส.ส. ส.ว. จะต้องส่งไปยังศาลฏีกา แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับนักการเมืองท้องถิ่นจึงได้ส่งไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 5 ถนนซูปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่ – ลำปาง ตำบลวัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งศาลได้รับคำร้องดังกล่าวและได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องแล้ว ผู้ถูกร้องถ้ายังดำรงตำแหน่งอยู่จะต้องหยุดกิจกรรมการทำหน้าที่บริหารไว้ก่อน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 240 เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้วินิจฉัยสั่งการเป็นอย่างใดแล้ว ให้เสนอต่อศาลฎีกาเพื่อพิจารณาวินิจฉัยโดยพลันและให้นำมาตรา 239 วรรคสอง และ วรรคสามมาใช้บังคับกับการที่สมาชิกวุฒิสภาผู้นั้นไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้โดยอนุโลม ทำให้ต้องหยุดการบริหารไว้ก่อนตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ศาลรับคำร้องการกล่าวโทษดังกล่าวนายขจรยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองที่ไม่ได้กระทำการทุจริตหรือทำผิดกฎหมายเลือกตั้งดังกล่าว โดยได้เข้าหารือกับนายสุขุม กันกา อดีตรองนายก อบจ.แพร่ นักกฎหมายชื่อดังของจังหวัดแพร่ เพื่อหาทางอุทธรณ์คำร้องดังกล่าวต่อไปแล้ว