xs
xsm
sm
md
lg

สองผัวเมียกาฬสินธุ์จับ"จักจั่น"ขายช่วงสงกรานต์ รายได้งามวันละ 500 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายบุญรอด จุนทะกอง และนางลำเพราภรรยา ราษฎรตำบลลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ ออกจับจักจั่นในเขตสวนสะออน ในโครงการบำรุงและรักษาเขื่อนลำปาว เพื่อนำไปขายเป็นอาหารจานเด็ดให้กับผู้ที่เดินทางมาเที่ยวสงกรานต์ ทำให้มีรายได้ถึงวันละ 500 บาท
กาฬสินธุ์ - สามีภรรยาชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ใช้ภูมิปัญญาเข้าป่าจับ"จักจั่น"นำไปจำหน่ายให้กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดในวันสงกรานต์ ทำรายได้ถึงวันละ 500 บาท ขณะที่นายแพทย์ สสจ.กาฬสินธุ์ เตือนผู้บริโภคของป่าและอาหารหน้าร้อนให้ระวังอาหารเป็นพิษ เพราะมียอดผู้ป่วยท้องร่วงพุ่งสูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาเกือบ 8 พันรายแล้ว

ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์เริ่มเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันประปรายมาตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนเป็นต้นมา พอถึงวานนี้(12 เม.ย)ที่เป็นวันเริ่มต้นของเทศกาลสงกรานต์อย่างเป็นทางการ บรรยากาศการละเล่นเริ่มที่จะคึกคักมากขึ้น ที่ถนนอรรฆนาค เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ที่ใช้เป็นถนนสงกรานต์หรือที่เรียกว่าถนนข้าวก่ำของจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีความยาวประมาณ 1 ก.ม. มีวัยรุ่นและคนหนุ่มสาว ใส่เสื้อลายดอกหลากสีสันและนำอุปกรณ์เล่นน้ำ ออกมาเล่นสาดกันตั้งแต่ช่วงเช้าเป็นจำนวนมาก

แต่สำหรับครอบครัวของนายบุญรอด จุนทะกอง อายุ 40 ปี ราษฎรชาวบ้านม่วงเฒ่า เลขที่ 8 หมู่ 4 ต.ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ ดูเหมือนจะไม่ตื่นเต้นกับวันสงกรานต์สักเท่าไรนัก เขากับนางลำเพาภรรยา ไปหาของป่าและจับ "จักจั่น"ในบริเวณสวนสะออนที่โครงการบำรุงและรักษาเขื่อนลำปาว และตามป่าชุมชนทั่วไป เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับผู้ที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ที่มาเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รับประทานอาหารพื้นบ้านที่เป็นของหายาก ทำให้มีรายได้จากการจำหน่ายจักจั่นถึงวันละ 500 บาท

นายบุญรอดกล่าวว่า"จักจั่น"เป็นแมลงชนิดหนึ่ง รูปร่างคล้ายตัวเหลือบ แต่ขนาดโตกว่า ลำตัวสีเทา ชอบเกาะตามต้นไม้ สามารถนำมาเป็นอาหารรับประทานได้ ทั้งก้อยดิบและทอดกรอบ แต่โดยมากจะนำมาก้อยดิบๆ เป็นอาหารพื้นบ้านที่นิยมกันมาก ซึ่งจะมีเฉพาะในหน้าแล้งเท่านั้น แต่นับวันจะหายากมากขึ้น เพราะสภาพดินฟ้าอากาศที่แห้งและแล้งจัด ฝนไม่ตก ระบบนิเวศถูกทำลาย ที่ผ่านมาตนกับภรรยาและเพื่อนบ้าน จะจับได้เพียงไม่กี่ตัว พอได้นำไปก้อยรับประทานในครัวเรือนเท่านั้น

นายบุญรอดกล่าวอีกว่าในวันสงกรานต์นี้ เป็นโอกาสดีที่เพื่อนบ้านพากันเล่นน้ำสงกรานต์ และรอต้อนรับลูกหลานที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ตนกับภรรยาจึงพากันเข้าป่าหาจับจักจั่นโดยใช้ภูมิปัญญา ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ด้วยการใช้ถุงพลาสติกที่มีปุยนุ่นบรรจุอยู่ข้างในผูกติดกับปลายไม้ เมื่อเวลาจับปีกของจักจั่นจะติดกับปุยนุ่น ไม่สามารถบินหนีได้

ในวันนี้ตนกับภรรยา จับจักจั่นได้ประมาณ 500 ตัว นำไปจำหน่ายตัวละ 1 บาท ที่จะทำให้มีรายได้ถึง 500 บาททีเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนในท้องถิ่นที่ไปทำงานต่างจังหวัด พอกลับมาเที่ยวสงกรานต์ที่บ้านก็นำจักจั่นไปก้อยกินดิบๆ เป็นเมนูของป่าที่หายาก ส่วนมากนิยมก้อยใส่มะม่วงหรือตัวมดแดง ที่จะให้รสชาติกรอบมัน-ออกเปรี้ยวนิดๆ

ด้านนายแพทย์พิสิทธิ์ เอื้อวงศ์กูล นพ.สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เตือนประชาชนที่บริโภคอาหารในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด มีพานะนำโรคมาก โดยเฉพาะโรคท้องร่วงที่สามารถจะเป็นโรคติดต่อร้ายแรงได้ ที่ส่วนมากจะมีสาเหตุมาจากการรับประทานไม่สะอาด หรือทำดิบๆสุกๆ ไม่คำนึงถึงคุณภาพ

ฉะนั้นประชาชนทั่วไปที่กินเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการบริโภคอาหาร โดยเฉพาะที่เป็นของกับแกล้มหรือทำจากของป่า ที่จะต้องผ่านการปรุงสุก สด ใหม่ สะอาด ปลอดภัย ไม่มีแมลงวันตอม เนื่องจากในระยะนี้มีผู้ป่วยด้วยโรคท้องร่วงที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลของรัฐและเอกชนแล้วเกือบ 8,000ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น