เชียงราย – ทหาร/ศุลกากรแม่สาย ร่วมจับกุมนายทุนหัวใสลอบนำเข้าข้าวพม่าข้ามแดน หวังขายต่อฝั่งไทยกินกำไรตันละ 4 พันบาท ขณะที่สหกรณ์การเกษตรบางแห่งในเมืองพ่อขุนฯ ฉวยโอกาสขึ้นราคาข้าวถุง โดยที่ไม่มีหน่วยงานใดๆ เข้ามาตรวจสอบควบคุม
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า ร.ท.ชรินทร์ สุวรรณะ ผบ.ร้อย ม.3 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง จ.เชียงราย ได้นำกำลังทหารร่วมกับ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ตะมะพุฒ สว.ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เแม่สาย เจ้าหน้าที่ศุลกากร อ.แม่สาย เข้าตรวจสอบที่บริเวณท่าเรือริมฝั่งแม่น้ำสาย แนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า บ้านสันนา ม.2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 11 เม.ย.51 ที่ผ่านมา กระทั่งได้ตรวจพบกลุ่มชายฉกรรจ์ กำลังทำการเคลื่อนย้ายกระสอบสินค้าจากเรือยาว ที่จอดเทียบฝั่งแม่น้ำเขตแดนไทย ขึ้นไปใส่รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน 81-0270 เชียงราย
เจ้าหน้าที่จึงสั่งโอบล้อม ก่อนจู่โจมเข้าจับกุมตัว ซึ่งทั้งหมดพยายามวิ่งหลบหนีไปคนละทิศละทาง แต่ไปไม่รอดถูกสกัดจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย นายสมพร ยิ่งยวง อายุ 43 ปี เจ้าของรถ อยู่บ้านเลขที่ 121 ม.2 ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ บุญปัญญา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม.2 ต.เกาะช้าง นอกนั้นอีก 7 คน เป็นแรงงานชาวพม่า ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งจากการตรวจสอบบริเวณท้ายรถบรรทุก ได้พบกระสอบข้าวเปลือก วางซ้อนตั้งกันเป็นแถวสูง จำนวน 115 กระสอบ น้ำหนัก 5,000 กิโลกรัม หรือ 5 ตัน จึงตรวจยึดและควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งดำเนินคดี
จากการสอบสวนปากคำนายสมพร เจ้าของรถ ให้การว่าข้าวทั้งหมดได้ติดต่อซื้อผ่านนายหน้าชาวพม่า ที่ท่าขี้เหล็กในราคาตันละ 8,000 บาท หวังนำเข้ามาส่งขายให้นายทุนในแม่สาย เนื่องจากข้าวเมืองไทย มีราคาซื้อขายตันละกว่า 12,000 บาท หากนำข้าวพม่าเข้ามาขายจะได้กำไรตันละ 4,000 บาท จึงนำเงินไปกว้านซื้อมาให้ได้มากที่สุด โดยลักลอบขนถ่ายผ่านเรือ เข้ามายังท่าเรือชายแดน แต่ไม่คิดว่ากลางดึกจะมีเจ้าหน้าที่มาดักจับกุม
ในวันเดียวกัน ฉก.ม.3 ร.ท.ชรินทร์ ได้จัดแถลงผลการจับกุมพร้อมของกลาง โดยระบุว่าก่อนหน้านี้ได้จัดชุดลาดตระเวนทำการลาดตระเวนตามแนวชายแดนลำน้ำสายไทย-พม่า เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดและสินค้าหนีภาษีรวมทั้งการกระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ปรากฎว่าเมื่อตระเวนไปถึงหมู่บ้านสันนา หมู่ 2 ต.เกาะช้าง พบแรงงานพม่า 7 คน ช่วยกันขนกระสอบข้าวเปลือกใส่เรือขนาดเล็กและขนกันมาจากฝั่งท่าขี้เหล็กเข้ามายังฝั่งไทยโดยมีคนไทยทั้ง 2 คนเป็นคนคุมงาน ขณะที่ในฝั่งไทยพบรถยนต์บรรทุกขนาด 6 ล้อ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 81—0207 เชียงราย ได้จอดรอรับบรรทุก
เจ้าหน้าที่จึงรอให้ทำการขนกระสอบไว้บนฝั่งจนครบทั้งหมดและพบว่าทั้งนายจ้างและลูกจ้างอยู่บริเวณฝั่งไทยทั้งหมดเข้าจู่โจมตรวจสอบเพราะเห็นว่าเป็นการขนสินค้าในจุดที่ไม่ได้มีการอนุญาตให้ค้าขายกันตามปกติ ปรากฎว่าพบของกลางและผู้ต้องหาทั้งไทยและพม่ารวมกัน 9 คนดังกล่าว
มีรายงานว่าการจำหน่ายข้าวสารตามแนวชายแดนทั้งฝั่ง อ.แม่สาย และเชียงแสน มีการขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสหกรณ์การเกษตรแห่งหนึ่งได้งดขายส่งข้าวสารที่บรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมราคา 120 บาท ให้ผู้ค้ารายย่อยและหันมาจำหน่ายขนาดขายส่งเฉพาะข้าวบรรจุ 2 กิโลกรัมโดยขายราคาถุงละ 55 บาท เมื่อเฉลี่ยราคาเดิมเคยขายกิโลกรัมละ 24 บาท ก็ขึ้นเป็น 27.50 บาท หรือขึ้นพรวดเดียวกิโลกรัมละ 3.50 บาท เพียงแต่ใช้วิธีการที่แยบยลด้วยการไม่ขึ้นราคาในถุงบรรจุขนาด 5 กิโลกรัมแต่เปลี่ยนมาบรรจุถุงเล็กและขึ้นราคาแทน ทำให้ผู้บริโภคหลายรายที่รู้ทันพากันบ่นอย่างมากขณะที่สหกรณ์จังหวัดเชียงรายยังไม่มีการออกมาตรการควบคุมใดๆ
