เชียงใหม่ - วงการโรงแรมเชียงใหม่คาดช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีหนูไฟ ตัวเลขวูบเหมือนปีที่ผ่านมา เหตุไม่มีแรงจูงใจในแง่ของการท่องเที่ยว ต่างหันปรับกลยุทธ์ทางการตลาดเน้นขายแพกเกจการดำหัวแบบประเพณีล้านนา หวังโกยรายได้แทนการเข้าพักของนักท่องเที่ยว เผยแม้ยอดจองจะยังไม่มากนักเพราะถือเป็นแพกเกจใหม่ ที่ยังไม่เคยทำเป็นเรื่องเป็นราวแต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย เพราะไม่สามารถคาดหวังรายได้จากเทศกาลสงกรานต์เหมือนในอดีต
นายกนก สุวรรณวิสูตร์ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ กล่าวถึงอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของปีนี้ว่า จะไม่ต่างจากปี 50 มากนักโดยอยู่ในอัตราเฉลี่ย 70-80% โดยนับจากนี้ไปเชื่อว่าอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์คงจะไม่เต็ม 100% เหมือนอดีตที่ผ่านมา เพราะแต่ละจังหวัดเองตอนนี้ก็มีการปรับเรื่องแผนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์เกือบทุกจังหวัดก็ล้วนจัดกิจกรรมแข่งกันอยู่แล้ว โดยจังหวัดเชียงใหม่ก็มักจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเดิม ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวเองอาจจะเปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวไปยังภาคอื่นๆ ของประเทศ และบางกลุ่มก็อาจจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีการวันหยุดติดต่อกันค่อนข้างหลายวัน
ปรับกลยุทธ์จัดแพกเกจ “ดำหัว”
จากการสำรวจของ “ผู้จัดการ” พบว่า โรงแรมหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ต่างหันมาปรับกลยุทธ์ทางการตลาดกันเป็นทิวแถว โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 3-4 ดาวในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ต่างหันจับกลุ่มลูกค้าในประเทศทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนรวมทั้งเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ โดยการขายแพกเกจ “ดำหัว” ซึ่งล้วนแข่งขันกันในเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำหัวและเน้นตกแต่งบรรยากาศ ที่เป็นประเพณีล้านนาเป็นหลัก สนนราคาอยู่ในระดับหัวละ 200-250 บาท
จากการสอบถามบุคคลในวงการโรงแรมต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า จริงๆ แล้วแพกเกจดำหัวนี้เชียงใหม่ไม่เคยมีการจัดแพกเกจนี้กันเลย เพิ่งจะมาจัดกันในปีนี้ ถือเป็นปีแรกด้วยซ้ำที่โรงแรมแต่ละแห่งหันมาให้ความสำคัญการตลาดด้านนี้ อาจเป็นเพราะในอดีตจังหวัดเชียงใหม่ไม่ต้องจัดกิจกรรมอะไรมากมายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่หากนึกถึงเทศกาลสงกรานต์แล้ว จังหวัดแรกที่จะนึกถึงคือจังหวัดเชียงใหม่ แต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เกิดความเบื่อหน่าย มาเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงเทศกาลนี้ทีไรมีจุดเล่นน้ำแห่งเดียว คือ ถนนรอบคูเมืองเท่านั้น ส่วนประเพณีอื่นๆ ก็แทบจะไม่เหลือให้เห็นแล้ว
แหล่งข่าวกล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้แล้วสภาพโอเวอร์ซัปพลายของโรงแรมเองก็มีส่วน เพราะโรงแรมเปิดให้บริการเป็นจำนวนมาก การแข่งขันจึงจำเป็นต้องมีมากตามไปด้วย และโรงแรมขนาดกลางส่วนใหญ่ก็ต้องมีการปรับตัวเพราะภาวการณ์แข่งขันในราคาห้องพักระดับ 800-1200 บาท ค่อนข้างรุนแรงหากไม่ปรับการตลาดที่จะต้องหาโปรโมชันใหม่ๆ มาในแต่ละช่วงเทศกาลรายได้ที่จะเข้ามาก็ต้องย่ำแย่ตามจำนวนนักท่องเที่ยวไปด้วย
จากการสำรวจพบว่า โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ 2000 ย่านถนนห้วยแก้ว จัดแพกเกจพิเศษชื่อว่า “ชื่นอก ชื่นใจ๋ ดำหัวผู้ใหญ่ ปี๋ใหม่เมือง” ขึ้น ซึ่งแพกเกจนี้มีทั้งเมนูบุฟเฟต์ ซอฟต์ดริงก์ อุปกรณ์ดำหัว, รำอวยพร ดอกมะลิคล้องคอ, รวมภาพประทับใจใส่แผ่นซีดี และอภินันทนาการต่างๆ มากมาย ในราคาหัวละ 200 บาท
นอกจากนี้ ที่โรงแรมลานนาพาเลซ ซึ่งเป็นโรงแรมในเครือเดียวกัน มีการจัดรายการร่วมสืบสานประเวณีปี๋ใหม่เมืองที่เน้นในเรื่องพิธีกรรม โตกเครื่องประกอบพิธีรดน้ำดำหัวรวมทั้งการตกแต่งบรรยากาศแบบล้านนาพร้อมอาหารในราคาหัวละ 250 บาท
นางสาวรริดา นิยมสำรวจ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ 2000 กล่าวว่า แพกเกจนี้ โรงแรมจัดไว้ตลอดเดือนเมษายนเพราะถือว่าเป็นเดือนปี๋ใหม่เมือง ซึ่งแม้ว่าจะพ้นช่วงสงกรานต์ไปแล้วก็ยังมีแพกเกจนี้อยู่ โดยขณะนี้มีผู้จองแพกเกจนี้แล้วประมาณ 10 กลุ่มส่วนใหญ่เป็นกลุ่มราชการในจังหวัดเชียงใหม่
ด้านโรงแรมพรพิงค์ ทาวเวอร์ นางสาวศิวพร บัวเชย ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายขาย กล่าวว่า ทางโรงแรมได้จัดPACKAGE “รดน้ำ-ดำหัวปี๋ใหม่เมือง” ในราคาเริ่มต้นหัวละ 250 บาท (จำนวนคนเข้าร่วมงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป) พร้อมอภินันทนาการมากมาย เช่น อาหารแบบไทยบุฟเฟต์ ซอฟต์ดริงก์ เครื่องครัวสำหรับประกอบพิธีรดน้ำ-ดำหัวชุดใหญ่ (หอมแดง กระเทียม ผลไม้หลากชนิด ขมิ้น + ส้มป่อย ฯลฯ) อุปกรณ์สำหรับพิธีรดน้ำ-ดำหัวครบชุด พวงมาลัยคล้องคอมะลิสดสำหรับผู้ร่วมงานทุกท่าน จัดตกแต่งบรรยากาศห้องในบรรยากาศแบบล้านนา ประดับด้วยตุง ฯลฯ
ส่วนที่ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว ย่านถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง รับจัดงานพิธีรดน้ำดำหัวตามแบบล้านนาโบราณพร้อมอุปกรณ์ พวงมาลัยดอกมะลิ น้ำขมิ้นส้มป่อย พร้อมอาหารบุฟเฟต์ที่เป็นอาหารพื้นเมืองในราคาหัวละ 200-250 บาทเช่นเดียวกัน