แพร่ – พ่อแม่วัยรุ่นเมืองแพร่เหยื่อสารพัดคดีที่ถูกตำรวจแจ้งข้อหา หวั่นลูกถูกวิสามัญฯ หลังรัฐบาล “หมัก” ยุค มท.เหลิม ใช้นโยบายเข้มเรื่องยาเสพติดจนอาจนำไปสู่การฆ่าตัดตอนเหมือนก่อนหน้านี้ เตรียมส่งลูกสมัครเป็นทหารเกณฑ์เชื่อลดเสี่ยงภัยได้ระดับหนึ่ง
นายบุญมี ธิน่าน อายุ 46 ปี พร้อมด้วยนางจันติ๊บ ธิน่าน อายุ 43 ปี สองสามีภรรยา ที่อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 157/1 หมู่ 9 บ้านไผ่ล้อม ต.หัวทุ่ง อ.ลอง จ.แพร่ ระบุว่า ขณะนี้กำลังหวั่นวิตกอย่างหนัก หลังรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช กำลังใช้มาตรการปราบปรามยาบ้าเช่นเดียวกับสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือการปราบปรามอย่างเด็ดขาดจนมีการฆ่าตัดตอนเกิดขึ้น โดยหวั่นว่านายธีรพงษ์ ธิน่าน อายุ 21 ปี ลูกชายคนเล็กจะถูกตำรวจ สภ.อ.ลองจัดให้อยู่ในกลุ่มคนร้ายค้ายาบ้า
สาเหตุเพราะก่อนหน้านี้ ลูกชายของนายบุญมีถูกตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร มาก่อน ทั้งที่ลูกชายคือนายธีรพงษ์กลับมาช่วยพ่อทำงานหลังจากพ่อประสบอุบัติเหตุแขนหัก เมื่อมาทำงานอยู่ใน ต.หัวทุ่ง วันหนึ่งไปพบซิมการ์ดตกอยู่ข้างทางจึงได้เก็บมาและลองใช้เมื่อใช้ได้จึงเก็บไว้ใช้ ต่อมาซิมการ์ดดังกล่าวกลายเป็นสื่อที่ทำให้ตำรวจติดตามคดีงัดแงะบ้านพักอาจารย์รายหนึ่งใน อ.ลอง จนมาถึงตัวนายธีรพงษ์จนถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร
ต่อมาตำรวจได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกนับ 10 คดี ถึงแม้นายบุญมี และนางจันติ๊บจะพยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานสอบสวนมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล จนคดีขึ้นสู่ศาลแล้วอย่างน้อย 5 คดี ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องไปแล้ว 3 คดี แต่ก็ยังมีสำนวนคดีคงค้างในมือเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายคดี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ครอบครัวนี้หวั่นว่า ลูกชายของตนเองจะถูกยิงทิ้ง จนอาจนำไปสู่ข้อหาค้ายาเสพติดในช่วงปราบปรามยาเสพติดในจังหวัดแพร่ขณะนี้
นายบุญมี บอกว่า ช่วงนี้พบว่ามีรถยนต์และคนแปลกหน้าเข้ามาซุ่มอยู่ใกล้บ้าน จนเพื่อนบ้านให้ทุกคนในครอบครัวระวังหวั่นว่า “ภัยมืด” จะตามมาคุกคาม ซึ่งเขาเป็นห่วงลูกชายมากกว่าตนเอง จึงต้องการให้ลูกสมัครเข้าไปรับราชการทหารในการเกณฑ์ทหารปีนี้ เพราะเป็นหลักประกันได้ว่าลูกชายจะปลอดภัยได้ระดับหนึ่ง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 51 ที่ผ่านมา นายบุญมี และนางจันติ๊บ เคยนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแพร่มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงใดๆ อย่างเป็นรูปธรรม
