ตราด - โจรงัดตู้เซฟ บ.ไทยน้ำทิพย์ตราด ใช้เหล็กตียามสลบเกิดสัญญาณเตือนภัย ทุบลำโพงพัง แต่งัดไม่ได้หลบหนี ขณะตำรวจไม่เชื่ออาจจะเป็นคนในร่วม
วันนี้ (7 เม.ย.) นายบรรพต สุขหลาย อายุ 47 อยู่บ้านเลข ที่ 84 หมู่ 1 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัท ไทยน้ำทิพย์จำกัด (มหาชน) สาขาตราด ได้วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจ.ตราด ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด ว่าถูกคนร้ายตีต้นคอและจับมัดมือมัดเท้า แล้วเข้าไปงัดตู้เซฟที่อยู่ภายในอาคารสำนักงานที่ชั้น 2
ร.ต.อ.สุริยา ชูเกียรติศิริ ร้อยเวร สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจสายตรวจและ ตำรวจวิทยากรมาที่บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด สาขาตราด ที่อยู่ห่างจาก สภ.เมืองตราด ประมาณ 5 กิโลเมตร
ในที่เกิดเหตุ พบนายพรนพัตร สุทธิวารี ผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้า และนายบรรพต สุขหลาย รวมทั้งนายสุรชัย อิ๊งเจริญ ผู้จัดการสาขา ทั้งหมด พา ร.ต.อ.สุริยา ชูเกียรติศิริ ไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบตู้ลำโพงที่ติดสัญญาณเตือนภัยถูกตีเสียหาย และบริเวณตู้เซฟมีร่องรอยงัดแงะแต่ไม่สามารถงัดเข้าไปได้ คนร้ายจึงหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อนำไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
ร.ต.อ.สุริยา ชูเกียรติศิริ พร้อมด้วยนายพรนพัตร สุทธิวารี และนายสุรชัย อิ๊งเจริญ จึงได้สอบถามนายบรรพต สุขหลาย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นยามรักษาความปลอดภัยตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นมา และในเวลาประมาณ 03.30 น. ได้ถูกคนร้ายใช้เหล็กหรือของแข็งตีที่บริเวณต้นคอจนหมดสติ และถูกมัดมือมัดเท้าด้วยเชือกและถูกปิดปากด้วยพลาสเตอร์
ตนแกล้งสลบเนื่องจากเห็นคนร้ายมีมีดขอ และสวมหมวกไหมพรมสีดำ รวมทั้งเกรงว่าจะถูกทำร้าย โดยที่บริเวณต้นคอมีรอยถูกตีเป็นผื่นแดงและข้อมือมีรอยถลอก และเมื่อคนร้ายหลบหนีไปแล้วจึงแก้เชือกที่เท้าออกแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วแจ้งให้ สภ.เมืองตราด ดังกล่าว
หลังจากบันทึกประจำวันแล้ว ร.ต.อ.สุริยา ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายบรรพตเท่าใดนัก และต้องการสอบสวนในเชิงลึกเนื่องจากนายสุรชัย อิ๊งเจริญ แจ้งว่าในตู้เซฟมีเงินที่เก็บไว้ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ยังไม่ได้นำเข้าธนาคารหลายล้านบาท คนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวในบริษัทเป็นอย่างดี และน่าจะมีพนักงานของบริษัทให้ข้อมูลภายใน จึงจะต้องทำการสอบสวนพนักงาน และตรวจสอบลายนิ้วมือประวัติอาชญากรรมเพื่อหาคนร้ายต่อไป
วันนี้ (7 เม.ย.) นายบรรพต สุขหลาย อายุ 47 อยู่บ้านเลข ที่ 84 หมู่ 1 ต.เนินทราย อ.เมือง จ.ตราด พนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัท ไทยน้ำทิพย์จำกัด (มหาชน) สาขาตราด ได้วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตจ.ตราด ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตราด ว่าถูกคนร้ายตีต้นคอและจับมัดมือมัดเท้า แล้วเข้าไปงัดตู้เซฟที่อยู่ภายในอาคารสำนักงานที่ชั้น 2
ร.ต.อ.สุริยา ชูเกียรติศิริ ร้อยเวร สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจึงนำกำลังตำรวจสายตรวจและ ตำรวจวิทยากรมาที่บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด สาขาตราด ที่อยู่ห่างจาก สภ.เมืองตราด ประมาณ 5 กิโลเมตร
ในที่เกิดเหตุ พบนายพรนพัตร สุทธิวารี ผู้จัดการฝ่ายคลังสินค้า และนายบรรพต สุขหลาย รวมทั้งนายสุรชัย อิ๊งเจริญ ผู้จัดการสาขา ทั้งหมด พา ร.ต.อ.สุริยา ชูเกียรติศิริ ไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบตู้ลำโพงที่ติดสัญญาณเตือนภัยถูกตีเสียหาย และบริเวณตู้เซฟมีร่องรอยงัดแงะแต่ไม่สามารถงัดเข้าไปได้ คนร้ายจึงหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบลายนิ้วมือเพื่อนำไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
ร.ต.อ.สุริยา ชูเกียรติศิริ พร้อมด้วยนายพรนพัตร สุทธิวารี และนายสุรชัย อิ๊งเจริญ จึงได้สอบถามนายบรรพต สุขหลาย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นยามรักษาความปลอดภัยตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นมา และในเวลาประมาณ 03.30 น. ได้ถูกคนร้ายใช้เหล็กหรือของแข็งตีที่บริเวณต้นคอจนหมดสติ และถูกมัดมือมัดเท้าด้วยเชือกและถูกปิดปากด้วยพลาสเตอร์
ตนแกล้งสลบเนื่องจากเห็นคนร้ายมีมีดขอ และสวมหมวกไหมพรมสีดำ รวมทั้งเกรงว่าจะถูกทำร้าย โดยที่บริเวณต้นคอมีรอยถูกตีเป็นผื่นแดงและข้อมือมีรอยถลอก และเมื่อคนร้ายหลบหนีไปแล้วจึงแก้เชือกที่เท้าออกแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วแจ้งให้ สภ.เมืองตราด ดังกล่าว
หลังจากบันทึกประจำวันแล้ว ร.ต.อ.สุริยา ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายบรรพตเท่าใดนัก และต้องการสอบสวนในเชิงลึกเนื่องจากนายสุรชัย อิ๊งเจริญ แจ้งว่าในตู้เซฟมีเงินที่เก็บไว้ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ยังไม่ได้นำเข้าธนาคารหลายล้านบาท คนร้ายน่าจะรู้ความเคลื่อนไหวในบริษัทเป็นอย่างดี และน่าจะมีพนักงานของบริษัทให้ข้อมูลภายใน จึงจะต้องทำการสอบสวนพนักงาน และตรวจสอบลายนิ้วมือประวัติอาชญากรรมเพื่อหาคนร้ายต่อไป
