คนร้ายเพิ่งพ้นคุกมาไม่ถึง 3 เดือน ก่อคดีบุกเข้าไปล็อกคอสาวเจ้าของร้านมินิมาร์ท แล้วจับมัดมือมัดเท้า ข่มขู่ชิงเงินสด เจ้าของร้านฮึดแกะพันธนาการได้ รีบวิ่งตามคนร้ายร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านช่วยกันรุมจับไว้ได้ แล้วสั่งสอนกันคนละตุ๊บสองตุ๊บ ก่อนจะแจ้งตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดี
วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปชิงทรัพย์ภายในร้านมินิมาร์ท และจับเจ้าของร้านมัดมือมัดเท้าขังไง้เป็นตัวประกัน โดย ร.ต.อ.สราวุธ พรหมอักษร รอง สวป.สน.ห้วยขวาง ได้รับแจ้งทางวิทยุ ว่า มีหญิงสาวเจ้าของร้านมินิมาร์ท ห้อง 106 บริเวณชั้น 1 ของอาคารสราญรมย์แมนชั่น เลขที่ 50 ถ.เทียนร่วมมิตร เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ถูกคนร้ายชิงทรพย์แล้วจับมัดมือมัดเท้าขังไว้ในห้องน้ำ จึงรีบรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 1 ภายในร้านดังกล่าว ตำรวจพบข้าวของหล่นกระจัดกระจาย และมีพลเมืองดีหลายคนช่วยกันจับกุมคนร้ายไว้ได้ ทราบต่อมาชื่อ นายสิรภพ หรือ เอ บรรจงจิตร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 550/264 ซอยโพธิ์ปั้น ถนนอโศกดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ อยู่ในสภาพสะบักสะบอม
จากการสอบสวน น.ส.ดวงกมล ใจมิภักดิ์ อายุ 35 ปี เจ้าของร้าน อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 6 ต.แม่ใจ อ.แม่ใจ จ.พะเยา เจ้าของร้านให้การ ว่า เมื่อช่วง 15.00 น.ได้มีพนักงานเอาเครื่องดื่มมาส่งให้ จึงได้นำเอาเงินสดในกระเป๋า 10,000 บาท จ่ายค่าเครื่องดื่มไป ซึ่งขณะนั้น ได้สังเกตเห็นคนร้ายนั่งอยู่บริเวณหน้าร้านเป็นเวลานาน และได้ทำทีเข้ามาขอซื้อน้ำดื่ม แต่จังหวะที่ได้หันไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำให้นั้น คนร้ายชาร์ตเข้ามาปิดปากล็อกคอ จากนั้นผลักเข้าไปในห้องน้ำด้านหลังร้าน พร้อมข่มขู่ให้นำเงินที่อยู่ในกระเป๋าคาดเอวจำนวน 2,000 บาทให้ จึงได้ส่งเงินให้ไป แต่คนร้ายยังไม่พอใจ ข่มขู่ให้นำเงินมาให้อีก จึงได้บอกไปว่า เงินอยู่ที่กระเป๋าถือหน้าร้าน เมื่อคนร้ายทราบจึงใช้พลาสติกผ้าใบ มามัดมือไพล่หลัง และให้ยืนบนชักโครก จากนั้นไดเทำการมัดเท้า พร้อมขู่สำทับอีกครั้งว่า หากไม่มีเงินตามที่ว่า จะกลับมาข่นขืน จากนั้นคนร้ายรีบออกไปค้นหาเงินที่กระเป๋าตามที่ได้บอกคนร้ายไว้
น.ส.ดวงกมล ให้การต่อว่า ขณะนั้นเอง ได้ดิ้นรนจนพลาสติกที่ข้อมือหลุดออก และรีบแก้มัดเท้า จึงได้วิ่งหนีออกมา แต่คนร้ายได้กระชากตนไว้ จนล้มกระแทกชั้นวางของล้มลงเสียงดัง คนร้ายตกใจเลยวิ่งหนีออกมา ตนจึงวิ่งตามออกไปแล้วร้องตะโกนให้คนช่วย ซึ่งบริเวณหน้าร้านก็มีคนอยู่หลายคน จึงช่วยจับกุมคนร้ายได้ในสภาพสะบักสะบอม อย่างที่เห็น
ขณะที่ นายสิรภพ ผู้ต้องหา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มเบียร์กับเพื่อน 3 คน ที่ซอยโรงลิเกหรือสถานทูตจีน จากนั้นได้เดินมาเรื่อยๆ จนถึงที่เกิดเหตุ พบว่า ภายในร้านมีผู้หญิงอยู่เพียงคนเดียว จึงคิดจะชิงทรัพย์เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าห้องเช่า โดยข้างแมนชั่นได้พบพลาสติกผ้าใบตกอยู่ จึงนำมาเป็นอุปกรณ์ในการชิงทรัพย์ แล้วบุกเข้าไปปฏิบัติการดังกล่าว โดยไม่มีเจตนาจะข่มขืน เพียงแค่ข่มขู่เท่านั้น ทั้งนี้ ตนเพิ่งออกจากคุกมาเมื่อเดือนธันวาคม ในคดีลักทรัพย์ ในท้องที่สน.ลาดพร้าว ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 3 เดือน ทั้งที่บ้านของตนเองก็ทำธุรกิจขายพลาสติก แต่ตนเองได้หนีออกจากบ้านเนื่องจากติดยาบ้าอย่างหนัก เลยมาเช่าห้องอยู่กับเพื่อน 3 คน ส่วนยาบ้าก็ได้มาเสพฟรีเพราะตนเองเป็นเด็กเดินยาอยู่
เบื้องต้นจำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ไว้ก่อน จากนั้นจะให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญา เพื่อไปตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับคดียาเสพติด หากมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีต่อไป
