ภัยแล้งทำยอดขายกล้าไม้ยูคาฯ เกษตรกรบุรีรัมย์ลดฮวบกว่าครึ่ง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ภัยแล้งอากาศร้อนพื้นดินแห้ง ทำยอดขายพันธุ์กล้าไม้ยูคาลิปตัส ของเกษตรกรบุรีรัมย์ลดลงมากกว่า 50% บางรายต้องชะลอการเพาะพันธุ์หรือลดปริมาณลงจากกว่า 1 ล้นต้นเหลือ 3 แสนต้น หวั่นขาดทุนหนัก เผยผู้ปลูกไม้ยูคาฯ ไม่กล้าปลูกในช่วงนี้เกรงแห้งตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ว่า เกษตรกรผู้เพาะพันธุ์กล้าไม้ยูคาลิปตัสส่งขาย ทั้งเป็นอาชีพหลัก และอาชีพเสริม บ้านหนองหว้า ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 30 ราย ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเกษตรกรจะเพาะพันธุ์กล้าไม้ยูคาเพื่อจำหน่ายตั้งแต่ครั้งละ 500,000-1,000,000 ต้น ลงทุนตั้งแต่ 100,000-300,000 บาทต่อราย โดยมีลูกค้าจากจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ขอนแก่น นครราชสีมา และจังหวัดอุดรธานี มาซื้อไปเพาะปลูกนั้น

ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากสภาพปัญหาภัยแล้ง ยอดจำหน่ายพันธุ์ไม้ลดลงกว่า 50 % เนื่องจากช่วงนี้ชาวสวนลูกค้าผู้ปลูกไม้ยูคาฯ งดและชะลอการปลูก เนื่องจากในหลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดน้ำ ประกอบกับอากาศร้อน ดินแห้ง ทำให้ไม่สามารถนำกล้าไม้ยูคาไปเพาะปลูกได้ เกรงว่าต้นกล้าจะแห้งตาย ทำให้เกษตรกรชะลอการปลูกไปจนถึงหน้าฝน ส่งผลให้เกษตรกรจำนวนผู้เพาะพันธุ์กล้าไม้ยูคา ลดลงเหลือไม่ถึง 10 ราย และยอดขายลดลงไปเป็นจำนวนมากเช่นกัน

นางทองใส ตองติดรัมย์ อายุ 37 ปี เกษตรกรผู้เพาะพันธุ์กล้าไม้ยูคาฯ ส่งขาย เปิดเผยว่า ช่วงนี้ได้ลดจำนวนเพาะพันธุ์กล้าไม้ลงเหลือเพียง 300,000 ต้น จากที่เคยเพาะในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวครั้งละกว่า 1 ล้านต้น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีลูกค้ามาชื้อพันธุ์กล้าไม้ยูคาฯ ไปปลูก เพราะเป็นช่วงหน้าแล้ง อากาศร้อน และดินแห้ง เกรงจะแห้งตายเสียหาย ทำให้ช่วงนี้ยอดจำหน่ายลดลงไป และคาดว่าจะซบเซาไปจนถึงฤดูฝน