ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เพลี้ยไฟระบาดกัดกินต้นข้าวโพดของเกษตรกรที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ปลูกขายเป็นอาชีพเสริมหลังฤดูเก็บเกี่ยว อีกทั้งประสบปัญหาขาดน้ำเหี่ยวเฉาแห้งตาย ได้รับความเสียหายร่วม 100 ไร่ วอนเจ้าหน้าที่เกษตรเร่งสำรวจให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกร บ.หนองหว้า ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ปลูกข้าวโพดหวานวางขายตามซุ้มริมถนน เป็นอาชีพเสริมหลังฤดูเก็บเกี่ยว กำลังประสบปัญหาเพี้ยไฟระบาดกัดกินใบ ยอด และฟักอ่อน สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรร่วม 100 ไร่ และขณะนี้เกษตรกรยังไม่สามารถหาวิธีกำจัดได้ เพียงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยการถอนต้นที่ถูกเพี้ยไฟระบาดทิ้ง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังต้นอื่น หากจะใช้ยาฆ่าแมลงฉีดกำจัดเกรงจะเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค
จึงร้องขอให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ หรือเกษตรจังหวัด เร่งเข้ามาสำรวจหาแนวทางกำจัดเพลี้ยไฟที่กำลังระบาด เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร ก่อนจะได้รับความเสียหายมากกว่านี้ นอกจากนี้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด ยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำหล่อเลี้ยง ทำให้ต้นเหี่ยวเฉาแห้งตายได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นายแพง ศรีสุวรรณ อายุ 48 ปี เกษตรกร บ.หนองหว้า ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนปลูกข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรีย์ 2 ทั้งหมด 5 ไร่ ลงทุนไปกว่า 25,000 บาท หากขายจะมีรายได้เฉลี่ยไร่ละ 10,000 บาทโดยจะปลูกปีละ 2 ครั้ง แต่ปีนี้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ และเพี้ยระบาด คาดว่าผลผลิตจะลดลงมากกว่า 70% ทำให้ประสบปัญหาขาดทุน
“ที่ผ่านมา ชาวบ้าน บ.หนองหว้า ได้ปลูกข้าวโพดขายเป็นอาชีพเสริมกว่า 30 ราย หลังจากประสบปัญหาภัยแล้ง และเพี้ยระบาดผลผลิตเสียหายจนบางรายต้องเลิกปลูก ปัจจุบันเหลือเพียง 10 กว่ารายเท่านั้น” นายแพง กล่าว
