ระยอง - ชลประทานระยอง มั่นใจสถานการณ์ภัยแล้งไม่ซ้ำรอยปี 48 หากฤดูฝนเริ่มในเดือนพฤษภาคม
นายสมศักดิ์ ศรีจันทร์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทาน จ.ระยอง เปิดเผยว่าแหล่งน้ำที่สำคัญของ จ.ระยอง มีจำนวน 5 แห่ง อ่างเก็บน้ำดอกกราย มีความจุ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล มีความจุ 164 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำประแสร์ 248 ล้านลูกบาศก์เมตร และคลองระโอก 20 ล้านลูกบาศก์เมตร
ณ วันนี้มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกราย 26.28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 37 % อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล 87.08 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 53.2 % อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ 16.59 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 41.4 % อ่างเก็บน้ำประแสร์ 169.80 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 68.5 % และคลองระโอก 10.64 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อ ว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกราย หนองปลาไหล และคลองใหญ่ 3 อ่างมีปริมาณน้ำในอ่างเหลือขณะนี้ 130 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 47% ชลประทานได้จัดสรรน้ำให้การประปาภูมิภาคระยอง โดยได้รับน้ำจากชลประทานทั้ง 3 อ่าง วันละ 400,000 ลูกบาศก์เมตร
ชลประทานได้จัดสรรน้ำให้ทุกภาคส่วน ซึ่งรับประกันว่าน้ำประปาระยองไม่มีการขาดน้ำอย่างเด็ดขาด อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกำลังการผลิตของการประปาภูมิภาคเอง ในภาคเกษตรกรรมพื้นที่ที่อยู่ใกล้เขตชลประทาน จะไม่ได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำแน่ เพราะปัจจุบันนี้ชลประทานได้สร้างระบบสูบน้ำจากคลองส่งน้ำให้ภาคเกษตร บ้านนาตาขวัญ บ้านแลง ทุ่งโพธิ์ บ้านแลง ห้วยหินดาษ อ.เมืองระยอง 4 – 5 แห่ง รวมทั้งหนองตะแบก และชะวึก
ในเดือนเมษายนนี้ฝนยังไม่ตกก็ไม่มีปัญหา ซึ่งคาดว่าในเดือนพฤษภาคม ระยองก็จะมีฝนตก เพราะฉะนั้นเดือนเมษายนเรามีการใช้น้ำประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็จะเหลือปริมาณน้ำในอ่าง 100 ล้านลูกบาศก์ฝนก็จะตกลงมาแล้ว หรือฝนอาจทิ้งช่วงต่อไปอีกถึงกลางเดือนพฤษภาคม ก็จะมีฝนแล้ว คาดว่าคงจะไม่เกิดสถานการณ์ภัยแล้งเหมือนปี 2548 แต่ถ้าแล้งยาวเหมือนปี 48 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน คาดว่าปริมาณน้ำจะเหลือประมาณ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับปี 48 มีปริมาณน้ำในอ่างเหลือเพียง 10 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนอีสท์วอเตอร์ ซื้อน้ำจากชลประทานตามที่ได้ขออนุญาตไว้ วันละ 4.8 แสนล้านลูกบาศก์เมตร - 500,000 ลูกบาศก์เมตร เหมือนเช่นทุกปี ก่อนอื่นชลประทานต้องดูแลจัดสรรน้ำเรื่องประปา เกษตรกรรมไว้ก่อน ตามด้วยภาคอุตสาหกรรมและระบบนิเวศน์
กรณีการดำเนินการวางท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปยังคลองใหญ่ ยังเหลืออีกประมาณ 140 เมตร ที่กำลังมีปัญหากับคนในพื้นที่ ซึ่งอ่างเก็บน้ำประแสร์เป็นแหล่งน้ำสำรองหากน้ำในอ่างทั้ง 3 อ่างไม่พอจึงจะนำมาใช้ เรื่องนี้ชลประทานวางแผนมาหลาย 10 ปีแล้ว การเชื่อมระบบมันเหมือนความมั่นคงของระบบกันเอง เพราะฝนตกไม่ทั่วฟ้า
นายสมศักดิ์ ศรีจันทร์ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทาน จ.ระยอง เปิดเผยว่าแหล่งน้ำที่สำคัญของ จ.ระยอง มีจำนวน 5 แห่ง อ่างเก็บน้ำดอกกราย มีความจุ 72 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล มีความจุ 164 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร อ่างเก็บน้ำประแสร์ 248 ล้านลูกบาศก์เมตร และคลองระโอก 20 ล้านลูกบาศก์เมตร
ณ วันนี้มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกราย 26.28 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 37 % อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล 87.08 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 53.2 % อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ 16.59 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 41.4 % อ่างเก็บน้ำประแสร์ 169.80 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 68.5 % และคลองระโอก 10.64 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อ ว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกราย หนองปลาไหล และคลองใหญ่ 3 อ่างมีปริมาณน้ำในอ่างเหลือขณะนี้ 130 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 47% ชลประทานได้จัดสรรน้ำให้การประปาภูมิภาคระยอง โดยได้รับน้ำจากชลประทานทั้ง 3 อ่าง วันละ 400,000 ลูกบาศก์เมตร
ชลประทานได้จัดสรรน้ำให้ทุกภาคส่วน ซึ่งรับประกันว่าน้ำประปาระยองไม่มีการขาดน้ำอย่างเด็ดขาด อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกำลังการผลิตของการประปาภูมิภาคเอง ในภาคเกษตรกรรมพื้นที่ที่อยู่ใกล้เขตชลประทาน จะไม่ได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำแน่ เพราะปัจจุบันนี้ชลประทานได้สร้างระบบสูบน้ำจากคลองส่งน้ำให้ภาคเกษตร บ้านนาตาขวัญ บ้านแลง ทุ่งโพธิ์ บ้านแลง ห้วยหินดาษ อ.เมืองระยอง 4 – 5 แห่ง รวมทั้งหนองตะแบก และชะวึก
ในเดือนเมษายนนี้ฝนยังไม่ตกก็ไม่มีปัญหา ซึ่งคาดว่าในเดือนพฤษภาคม ระยองก็จะมีฝนตก เพราะฉะนั้นเดือนเมษายนเรามีการใช้น้ำประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็จะเหลือปริมาณน้ำในอ่าง 100 ล้านลูกบาศก์ฝนก็จะตกลงมาแล้ว หรือฝนอาจทิ้งช่วงต่อไปอีกถึงกลางเดือนพฤษภาคม ก็จะมีฝนแล้ว คาดว่าคงจะไม่เกิดสถานการณ์ภัยแล้งเหมือนปี 2548 แต่ถ้าแล้งยาวเหมือนปี 48 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน คาดว่าปริมาณน้ำจะเหลือประมาณ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อเทียบกับปี 48 มีปริมาณน้ำในอ่างเหลือเพียง 10 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนอีสท์วอเตอร์ ซื้อน้ำจากชลประทานตามที่ได้ขออนุญาตไว้ วันละ 4.8 แสนล้านลูกบาศก์เมตร - 500,000 ลูกบาศก์เมตร เหมือนเช่นทุกปี ก่อนอื่นชลประทานต้องดูแลจัดสรรน้ำเรื่องประปา เกษตรกรรมไว้ก่อน ตามด้วยภาคอุตสาหกรรมและระบบนิเวศน์
กรณีการดำเนินการวางท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปยังคลองใหญ่ ยังเหลืออีกประมาณ 140 เมตร ที่กำลังมีปัญหากับคนในพื้นที่ ซึ่งอ่างเก็บน้ำประแสร์เป็นแหล่งน้ำสำรองหากน้ำในอ่างทั้ง 3 อ่างไม่พอจึงจะนำมาใช้ เรื่องนี้ชลประทานวางแผนมาหลาย 10 ปีแล้ว การเชื่อมระบบมันเหมือนความมั่นคงของระบบกันเอง เพราะฝนตกไม่ทั่วฟ้า