โจรแปดริ้วกำเริบ! บุกตัดสายไฟเขื่อนทดน้ำบางปะกงเดี้ยง

ฉะเชิงเทรา - โจรลักตัดสายไฟแปดริ้วกำเริบหนัก ขโมยตัดสายไฟฟ้าเชื่อมต่อศูนย์ควบคุมกลไกไปยังบานประตูเปิด-ปิดช่องระบายน้ำชุดที่ 5 หายทั้งชุด พร้อมสายไฟโคมส่องสว่างตามแนวสันเขื่อนยาวกว่า 2 กม. รวมกว่า 50 ต้นเสียหายนับล้านบาท

วานนี้(31 มี.ค.) เวลา 15.00 น.นายสุรพล เขม้นนามัด หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา เขื่อนทดน้ำบางปะกง เข้าแจ้งความต่อพ.ต.ท.สุพรรณ พลภักดิ์ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองฉะเชิงเทราว่า หลังได้เข้าทำการตรวจสอบเหตุขัดข้องในการขยับบานประตูเพื่อสลับบานปิดกั้นน้ำที่บานประตูเขื่อนทดน้ำบางปะกง ตั้งอยู่เลขที่ 96 ม.11 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบว่าบานประตูระบายน้ำชุดที่ 5 ไม่สามารถเลื่อนขยับปิดเปิดบานประตูได้ และเมื่อตรวจสอบตู้วงจรสายไฟฟ้าภายในระบบควบคุมพบว่า สายไฟฟ้าที่เดินระหว่างหอควบคุม และบานประตูมีร่องรอยการถูกตัดและสูญหายไปจากวงจร

นอกจากนี้ ยังพบว่าสายไฟฟ้าส่องสว่างตามแนวถนนสันเขื่อนทั้งด้านฝั่งลำน้ำบางปะกงสายเดิม และลำน้ำสายใหม่ที่มีการขุดลัดสร้างแนวเขื่อนกั้นบานประตูขวางลำน้ำได้สูญหายไปจำนวนมากกว่า 50 ตัน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสอบบริเวณโดยรอบพื้นที่ พบว่ารั้วลวดหนามกั้นบริเวณเขื่อนทดน้ำถูกตัดเป็นช่อง ภายในป่าละเมาะริมแม่น้ำข้างเคียงเขื่อนทดน้ำบางปะกง มีร่องรอยของเปลือกสายไฟฟ้าตกหล่นอยู่เป็นจำนวนมาก และพบผู้ต้องสงสัยอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 2 คน คือนายอนุชา สุขประเสริฐ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.12 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนอีกคนได้กระโดดน้ำหนีไป ทราบชื่อต่อมาคือนายวิทยา สอนดิรก ไม่ทราบอายุ และที่อยู่ กำลังนั่งปอกสายไฟฟ้าอยู่ในบริเวณดังกล่าว พร้อมรถจักยานยนต์ฮอนด้า คลิ๊ก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีแดง จำนวน 1 คัน

ซึ่งครั้งแรกผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ด้วยพยานแวดล้อม และจำนนด้วยหลักฐาน ประกอบกับพฤติการณ์มีพิรุธในที่เกิดเหตุ จึงยอมรับสารภาพในเวลาต่อมาว่า เป็นผู้ที่โจรกรรมลักตัดสายไฟฟ้าของบานประตูเขื่อนทดน้ำบางปะกงไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า บุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการเขตหวงห้าม และลักทรัพย์ในเวลากลางวัน จนทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ ก่อนควบคุมตัวไปทำการสอบสวนขยายผลต่อไป