ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจโพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ไล่ตะครุบจับเฒ่าวัย 59 ปี ซิ่งรถจยย.ตระเวณลักลอบตัดสายไฟฟ้าของประชาชนไปขาย แต่เจ้าตัวยังปากแข็งให้การปฏิเสธ แม้ถูกจับได้ซึ่งหน้าพร้อมของกลางสายไฟฟ้าและเครื่องมืออุปกรณ์ในการก่อเหตุครบครัน
วันนี้ ( 23 มี.ค.) ร.ต.อ.ดลวัตร ยืนยง ร้อยเวร สภ.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่าที่บริเวณทุ่งนาด้านข้างฟ้าสีรีสอร์ท ต.โพนเขวา อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีชายต้องสงสัยกำลังลักลอบตัดสายไฟฟ้าเพื่อการเกษตรของชาวบ้านที่ต่อสายไฟฟ้าไปยังทุ่งนา ดังนั้นจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปยังที่เกิดเหตุพบชายดังกล่าวกำลังม้วนสายไฟฟ้าแรงต่ำอยู่ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทิ้งสายไฟฟ้าลงกับพื้นและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจจึงไล่ตามและสามารถตะครุบจับตัวได้ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร
จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายของผู้ต้องสงสัยพบเลื่อยตัดเหล็ก คีมตัดเหล็ก ถุงมือที่มีฉนวนกันไฟฟ้า และจากการตรวจสอบรอบบริเวณมีสายไฟฟ้าแรงต่ำความยาวประมาณ 50 เมตร ถูกตัดกองอยู่กับพื้นจำนวน 2 ม้วน และห่างออกไปประมาณ 100 เมตรพบรถจักรยานยนต์ 1 คัน ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 100 สีบรอนด์เทา หมายเลขทะเบียน กษฉ 990 ศรีสะเกษ มีใบตาลปกคลุมอำพรางสายตาไว้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชายผู้ต้องสงสัยนำเอากุญแจที่อยู่ในตัวมาทำการเปิดเพื่อสตาร์ทเครื่องแลสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปสอบสวนที่ สภ.โพนเขวา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ชื่อ นายวินัย ศรีสุรักษ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 หมู่ 2 บ้านหนองแก้ว ต.หนองแก้ว อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายวินัยได้ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้ลักตัดสายไฟแต่อย่างใด อ้างว่ามาหาเพื่อนที่บริเวณดังกล่าว และเมื่อเห็นตำรวจได้วิ่งหนีด้วยความกลัวเพราะเห็นชายฉกรรจ์มาเป็นจำนวนมาก
ส่วนอุปกรณ์และเครื่องมือที่ตำรวจค้นพบนั้นจะเอาไปช่วยเพื่อนทำงานก่อสร้าง และรถจักรยานยนต์น้ำมันหมดจึงได้จอดเอาไว้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์พบยังคงมีน้ำมันเชื่อเพลิงอยู่ไม่น้อย
เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าเป็นเหตุซึ่งหน้าและมีพยานหลักฐานของกลางชัดเจนว่า นายวินัยได้กระทำการลักทรัพย์จริง จึงได้ตั้งข้อหา “ลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิด” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
