ผู้จัดการออนไลน์- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การพัฒนาการผลิตและการตลาดผลผลิตโคนมของประเทศไทย”เพื่อเชื่อมโยงการขยายตลาดน้ำนมดิบอย่างต่อเนื่อง ทั้งส่งเสริมผู้เลี้ยงในด้านเงินทุน และต่อยอดการส่งออกยังประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคใกล้เคียงต่อไป
นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เห็นความสำคัญของการเลี้ยงโคนม โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาขบวนการบริหารจัดการ และให้มีการขยายสมาชิกเพิ่มเติม เนื่องจากความต้องการน้ำนมดิบยังมีอย่างต่อเนื่องตลอดถึงราคายังคงดี
ทางกระทรวงฯจึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปส่งเสริมด้านเงินทุนโดยประสานกับ ธ.ก.ส. ถ้าสมาชิกที่เข้ามาใหม่หรือสมาชิกคนใดที่เลี้ยงไปแล้วแต่ขาดทุน ก็อาจจะมาฟื้นตัวใหม่ได้ เป้าเพื่อให้ผลผลิตออกมาเพียงพอกับความต้องการของตลาด
แต่หากช่วงใดมีปริมาณมากเกิดความต้องการของตลาดในประเทศก็จะส่งไปจำหน่ายยังตลาดของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบันยังมีปริมาณความต้องการอยู่มาก ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้ความช่วยเหลือแก่สหกรณ์โคนม โดยส่งเสริมให้มีการพัฒนาทั้งประสิทธิภาพ คุณภาพ มาตรฐานการผลิต ตลอดจนการขยายตลาด
ด้าน น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพมาตั้งแต่ปี 2500 โดยได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงจัดตั้งเป็นสหกรณ์โคนมเมื่อปี 2513 เพื่อช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการรวบรวมและจำหน่ายน้ำนมดิบที่มีคุณภาพ
รวมทั้งลดความเสียหายของน้ำนมดิบในการขนส่งจากฟาร์มเกษตรกรสู่ศูนย์รวบรวมน้ำนมและโรงงานแปรรูป ตลอดจนการจัดหาปัจจัยการผลิต อาหารสัตว์ และการดูแลสุขภาพอนามัยของโคนมทำให้อาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าตามลำดับ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการน้ำนมดิบของสหกรณ์/เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีตลาดรองรับที่แน่นอน รวมถึงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบสถานการณ์ภาวะตลาดน้ำนมดิบในประเทศไทย และต่างประเทศ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข และร่วมกันส่งเสริมความยั่งยืนให้เกิดขึ้นแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
พร้อมกันนี้ ในระหว่างการประชุม ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างตัวแทนสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม 100 แห่ง ศูนย์รับน้ำนมดิบเอกชน กับผู้ประกอบการนมพาณิชย์ โดยทางผู้ประกอบการฯจะรับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์ในปริมาณ 1,579.60 ตันต่อวันและจากศูนย์รับน้ำนมดิบเอกชนอีก 786.8 ตันต่อวัน โดยจะเริ่มส่งน้ำนมดิบตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.51-31 มี.ค.52
นายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เห็นความสำคัญของการเลี้ยงโคนม โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาขบวนการบริหารจัดการ และให้มีการขยายสมาชิกเพิ่มเติม เนื่องจากความต้องการน้ำนมดิบยังมีอย่างต่อเนื่องตลอดถึงราคายังคงดี
ทางกระทรวงฯจึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปส่งเสริมด้านเงินทุนโดยประสานกับ ธ.ก.ส. ถ้าสมาชิกที่เข้ามาใหม่หรือสมาชิกคนใดที่เลี้ยงไปแล้วแต่ขาดทุน ก็อาจจะมาฟื้นตัวใหม่ได้ เป้าเพื่อให้ผลผลิตออกมาเพียงพอกับความต้องการของตลาด
แต่หากช่วงใดมีปริมาณมากเกิดความต้องการของตลาดในประเทศก็จะส่งไปจำหน่ายยังตลาดของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบันยังมีปริมาณความต้องการอยู่มาก ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ให้ความช่วยเหลือแก่สหกรณ์โคนม โดยส่งเสริมให้มีการพัฒนาทั้งประสิทธิภาพ คุณภาพ มาตรฐานการผลิต ตลอดจนการขยายตลาด
ด้าน น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการเลี้ยงโคนมเป็นอาชีพมาตั้งแต่ปี 2500 โดยได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีการรวมกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงจัดตั้งเป็นสหกรณ์โคนมเมื่อปี 2513 เพื่อช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการรวบรวมและจำหน่ายน้ำนมดิบที่มีคุณภาพ
รวมทั้งลดความเสียหายของน้ำนมดิบในการขนส่งจากฟาร์มเกษตรกรสู่ศูนย์รวบรวมน้ำนมและโรงงานแปรรูป ตลอดจนการจัดหาปัจจัยการผลิต อาหารสัตว์ และการดูแลสุขภาพอนามัยของโคนมทำให้อาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าตามลำดับ
กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการน้ำนมดิบของสหกรณ์/เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีตลาดรองรับที่แน่นอน รวมถึงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับทราบสถานการณ์ภาวะตลาดน้ำนมดิบในประเทศไทย และต่างประเทศ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข และร่วมกันส่งเสริมความยั่งยืนให้เกิดขึ้นแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
พร้อมกันนี้ ในระหว่างการประชุม ได้มีการทำบันทึกข้อตกลงระหว่างตัวแทนสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนม 100 แห่ง ศูนย์รับน้ำนมดิบเอกชน กับผู้ประกอบการนมพาณิชย์ โดยทางผู้ประกอบการฯจะรับซื้อน้ำนมดิบจากสหกรณ์ในปริมาณ 1,579.60 ตันต่อวันและจากศูนย์รับน้ำนมดิบเอกชนอีก 786.8 ตันต่อวัน โดยจะเริ่มส่งน้ำนมดิบตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.51-31 มี.ค.52