ศูนย์ข่าวศรีราชา- ผู้ว่าฯ เมืองชลสั่งผู้เกี่ยวข้องเดินเครื่องจัดระเบียบร่ม-เตียงชายหาด นำร่องพื้นที่พัทยาลดปริมาณการใช้พื้นที่เหลือเพียง 29% ด้านผู้ประกอบการโอดภาครัฐรุนแรง ไร้ความปราณี ขณะที่นายอำเภอบางละมุง เผยชายหาดเป็นที่สาธารณะอะลุ่มอล่วย ให้ทำกินหาประโยชน์มานาน ไม่เปิดโอกาสให้ขยายพื้นที่เพิ่มชี้ผู้ประกอบการต้องยอมอย่าฝืนมติสังคม
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา นายมงคล ธรรมกิติติคุณ นายอำเภอบางละมุง ในฐานะประธานพิจารณาการจัดระเบียบร่มที่สาธารณะชายหาดพัทยา หาดจอมเทียน และหาดอื่นๆในเขตเมืองพัทยา ตามการแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการและผู้ประกอบการร่ม-เตียงชายหาด เมืองพัทยาจำนวน 108 ราย
ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับประกาศจังหวัดชลบุรีฉบับล่าสุด เกี่ยวกับแนวทางการจัดระเบียบ พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ เพื่อรายงานตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ก่อนกำหนดระยะเวลาเพื่อดำเนินการอย่างเป็นทางการ
นายสิทธิภาพ เมืองคุ้ม ปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัจจุบันมีประกาศจากจังหวัดชลบุรีเกี่ยวกับแนวทางการจัดระเบียบอย่างชัดเจนมาแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมีข้อกำหนดทั้งสิ้นจำนวน 8 ข้อ ซึ่งสาระส่วนใหญ่คงจะเป็นการกำหนดเรื่องของสิทธิประโยชน์ การห้ามขายถ่ายโอนสิทธิ์ทำกิน และการกำหนดพื้นที่ประกอบการขึ้นใหม่ โดยจะทำการปรับลดให้มีปริมาณเหมาะสมกับสภาพท่องเที่ยว เพื่อความสวยงาม และเปิดช่องว่างให้นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
ในส่วนของชายหาดเมืองพัทยา จากพื้นที่รวมทั้งสิ้น 2,600 เมตร จากจำนวนผู้ประกอบการเดิมจำนวน 274 ล็อค จะมีการปรับลดให้เหลือเพียง 108 ล็อก หรือเหลือจำนวนเท่ากับผู้ลงทะเบียนไว้กับเมืองพัทยาจำนวน 108 รายคือ 1 ล็อกต่อ 1 ราย ในอัตราพื้นที่ 7X7 เมตรเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ใช้พื้นที่ในการประกอบการโดยรวมไปเพียง 29% ของพื้นที่ทั้งหมด และข้อกำหนดดังกล่าวถือเป็นคำสั่งทางการปกครอง โดยจะมีผลบังคับใช้ในเวลา 30 วัน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการทางจังหวัดชลบุรีจึงได้จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นก่อนเป็นการเบื้องต้นก่อนกำหนดเวลาที่ชัดเจนอีกครั้ง
จากผลของประกาศดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากพยายามคัดค้าน โดยชี้แจงว่านโยบายที่จัดทำนั้นจะส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของผู้ประกอบการ ซึ่งถือว่าสร้างประโยชน์ให้กับเมืองพัทยาทางด้านการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน และมีการจับจองทำกินมานานนับสิบปีแล้ว จึงเห็นควรให้มีการพิจารณาพื้นที่ใหม่หรือชะลอเวลาการจัดระเบียบออกไปอีก 2 เดือน จากนั้นจึงจะมาร่วมประชุมเพื่อหาบทสรุปอีกครั้ง
ทางด้าน นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่าสำหรับพื้นที่ชายหาดเมืองพัทยาถือเป็นที่สาธารณะ ไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือมีกรรมสิทธิ์ครอบครองได้ เพราะถือเป็นสมบัติของส่วนรวมที่ทุกคนต้องการใช้ ดังนั้น คงจะปล่อยตามความเห็นของผู้ประกอบการไม่ได้ เพราะจังหวัดชลบุรีเองก็ต้องการแก้ไขเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบและถูกต้อง เพื่อประโยชน์แก่ภาพรวม
อีกทั้งที่ผ่านมาก็อะลุ้มอล่วยให้ทำกินมาเป็นเวลานานแล้ว จึงควรเห็นแก่เสียงของคนส่วนใหญ่หรือมติของสังคมบ้าง อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวก็ไม่ได้สั่งให้ยกเลิกการทำกิน เพียงแต่แบ่งพื้นที่สัดส่วนให้มีความเหมาะสมและเปิดโอกาสให้ทำกินต่อไปเช่นเดิมแม้จะเจ็บบ้างก็คงต้องยอม เรื่องนี้จึงถือว่าเป็นการให้โอกาสผู้ประกอบการอย่างเต็มที่แล้ว
นายมงคล กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีของการเพิ่มล็อก จากเดิมที่กำหนดไว้นั้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะมีการนำเสนอเรื่องของการขยายพื้นที่เพิ่มเติมขึ้นจาก 7X7 เมตร เป็น 8 หรือ 9X7 เมตรก็อาจเป็นไปได้ ซึ่งทางกรรมการก็จะได้นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเพื่อพิจารณาความเหมาะสม ก่อนจะมีการกำหนดระยะเวลาการจัดระเบียบอย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มที่ชายหาดพัทยาก่อนเป็นลำดับแรก
ส่วนเมื่อดำเนินการแล้วจะมีผู้ประกอบการขัดคำสั่งหรือฝ่าฝืน คงไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร เพราะคงจะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดำเนินการอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญการจัดระเบียบครั้งนี้คงจะมาใช้เรื่องการเมืองเข้ามาข้องเกี่ยวหรือช่วยเหลือไม่ได้ เพราะเป็นแนวนโยบายทางการปกครองของภาครัฐที่เข้ามาดำเนินการจัดการเอง
