ร่ม-เตียงพัทยาฮือประท้วงจัดระเบียบไม่เป็นธรรม

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการร่ม-เตียงพัทยา ฮือประท้วงจัดระเบียบร่ม-เตียงไม่เป็นธรรม ชี้ ผู้ว่าฯชลบุรีทำงานบกพร่องผิดขั้นตอน เตรียมชงเรื่องร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาใหม่ ขณะที่อำเภอบางละมุงไม่สนสั่งจับสลากผู้ให้ความร่วมมือในการจัดโซนพื้นที่ทำกิน ย้ำ 20 เมษายนนี้ ลงพื้นที่จัดระเบียบ

วันนี้ (8 เม.ย.) ที่ศาลาประชาคมอำเภอบางละมุง นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาการจัดระเบียบร่ม-เตียงชายหาดพัทยา จอมเทียน พร้อมด้วย นายสิทธิภาพ เมืองคุ้ม ปลัดเมืองพัทยา ในฐานะเลขาคณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมร่วมผู้ประกอบการร่ม-เตียงชายหาดพัทยา เพื่อชี้แจงแนวนโยบายการจัดระเบียบตามประกาศของจังหวัดชลบุรี

พร้อมกำหนดการจับสลากเพื่อคัดเลือกพื้นที่ทำกินอย่างชัดเจน หลังผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีมีนโยบายแน่ชัดในการจัดระเบียบตามข้อประกาศ และกำหนดให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 20 เมษายน ที่จะถึงนี้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกของการประชุมได้มีการเชิญผู้ประกอบการร่ม-เตียงจำนวน 108 รายของชายหาดพัทยา เข้าร่วมลงนามโดยมีข้อจำกัดที่ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริงเท่านั้น ซึ่งปรากฏว่า มีผู้เข้าร่วมประชุมบางส่วนเกิดความไม่พอใจ เนื่องจากได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนจากเจ้าของร่ม-เตียงบางส่วนที่ได้มอบสิทธิ์มาให้เข้าร่วมประชุมแทน จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นก่อนจะนำกลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไปตั้งกลุ่มประท้วงบริเวณชั้นล่างของอาคาร

โดยกล่าวโจมตีการทำงานของคณะกรรมการว่าไม่โปร่งใส และมีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากไม่มีผู้ประกอบการร่ม-เตียงในพื้นที่อื่นๆ เข้าร่วมด้วย

นายกัลป์ พิมพ์สกุล ทนายความเอกชน ชี้แจงว่า การประชุมครั้งนี้ดูไม่ชัดเจนและไม่โปร่งใส เนื่องจากมีการเรียกประชุมเฉพาะหาดพัทยาไม่มีหาดอื่นเหมือนเป็นการเลือกปฏิบัติ หรือเกรงกลัวอำนาจทางการเมือง

นอกจากนี้ ตนเองก็ยังได้รับการไหว้วานจากเจ้าหน้าที่เตียง ซึ่งก็มีการมอบหมายสิทธิ์ให้เข้าร่วมประชุมแทน แต่กลับถูกกรรมการปฏิเสธซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะตามกฎหมายแล้วสามารถดำเนินการได้ ดังนั้น ผู้สั่งห้ามจึงถือว่าปฏิบัติตนไม่เหมาะสมและแสดงตนอยู่เหนือกฎหมาย

ขณะที่นโยบายการจัดระเบียบร่ม-เตียงนั้น ก็ถือว่าไม่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะเมืองพัทยาเป็นรูปแบบการปกครองแบบพิเศษอำนาจอยู่ที่นายก และผู้ว่าฯ มีอำนาจเพียงให้คำปรึกษาหรือกำกับดูแลแต่นี่กลับมาใช้อำนาจจัดการจึงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง อีกทั้งที่ดินนี้ก็เป็นของส่วนรวมเป็นของคนทุกคน ดังนั้นการจะดำเนินการอะไรก็ต้องให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ และแสดงความคิดเห็นด้วย

ดังนั้น คำสั่งที่ออกมานี้ก็เหมือนการมัดมือชก ซึ่งขัดกับกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ และการดำเนินการตรงนี้มองว่าเป็นการรังแกประชาชนโดยตรง โดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย ทั้งนี้เพราะที่ดินที่ทำกินตรงนี้หากินกันมานานถ้าหากเห็นว่าเถื่อน ทำไมถึงมีหนังสือจากเมืองพัทยามารองรับและมีการเรียกเก็บภาษีทุกปี

ขณะที่ตัวผู้ว่าราชการจังหวัดเอง ซึ่งถือเป็นพ่อเมืองแต่กลับทำตัวไม่เหมือนพ่อมีแต่คอยแต่รังแกลูกๆ ทั้งๆ ที่ทุกคนทำมาหากินโดยสุจริต จึงถือเป็นการทำงานแบบผิดขั้นตอน ขณะที่ข้าราชการเองก็ทำกับประชาชนเหมือนกับเป็นพลเมืองชั้น 2 ทั้งๆ ที่กินภาษีจากประชาชนอยู่ทุกบาททุกสตางค์ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ผู้ว่าคงต้องมาตอบปัญหาก่อนจากนั้นจึงจะมาจัดระเบียบได้

อย่างไรก็ตาม ขณะที่สถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นตามลำดับ นายอำเภอบางละมุงก็ได้เข้าชี้แจงพร้อมเชิญชวนให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ขึ้นรับฟังแนวนโยบายก่อนเป็นการเบื้องต้น จากนั้นจึงหาข้อยุติเพื่อหารือ แต่หากยังฝ่าฝืนก็คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการก็ยังคงยืนกรานที่จะไม่เข้าร่วม และจะมีการรวมกลุ่มเพื่อเดินทางเข้าร้องเรียนยังจังหวัดชลบุรี และกระทรวงมหาดไทยต่อไป

ทางด้าน นายมงคล ธรรมกิตติคุณ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่าสำหรับนโยบายการจัดระเบียบร่ม-เตียงนั้นได้ประชุมร่วมมาแล้วหลายครั้ง และล่าสุด ก็มีบทสรุปที่จะทำเรื่องของผ่อนผันใน 2 ประเด็นไปยังจังหวัดชลบุรี คือ การขอขยายพื้นที่จาก 7X7 เมตร จาก 108 รายของหาดพัทยา เป็นขนาดใหญ่ขึ้น และขยายเวลาการจัดระเบียบจากวันที่ 12 เมษายนเป็นวันที่ 20 เมษายนเพื่อเลี่ยงวันสงกรานต์ ซึ่งได้รับคำตอบว่าประเด็น 7X7 เมตรให้คงไว้ แต่ให้ขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 20 เมษายน ด้วยเหตุนี้จึงเรียกผู้ประกอบการเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจง และทำการจับสลากพื้นที่ทำกินตามที่คณะกรรมการกำหนด แต่ก็มาเกิดปัญหาขึ้น

นายมงคล กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ประกอบการร่ม-เตียงจะรวมตัวประท้วงหรืออุทรณ์คำสั่งก็เป็นสิทธิ์ที่กระทำได้ แต่ชายหาดพัทยาถือเป็นที่สาธารณะที่เปิดโอกาสให้ทำกินมานานได้รับผลประโยชน์มามากมาย ดังนั้น จึงถึงเวลาที่จะต้องจัดระเบียบ ซึ่งก็ไม่ได้ยกเลิกเพราะยังเหลือให้รายเก่าทำกินในพื้นที่คนละ 1 ล็อก และจะมีการเรียกเก็บผลประโยชน์เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะที่ผ่านมาถือว่าอะลุ่มอล่วยให้ แต่เมื่อไม่ฟังก็คงต้องรวบรวมรายชื่อผู้ที่ไม่เข้าร่วมเสนอต่อจังหวัดเพื่อพิจารณายกเลิกพื้นที่ทำกิน

โดยจะเหลือไว้ให้เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมเท่านั้น โดยจะมีการเข้าไปจัดระเบียบในวันที่ 20 เมษายนนี้อย่างแน่นอน จากนั้นก็จะดำเนินการในหาดอื่นๆต่อไป ส่วนที่ว่ามีหนังสืออุทรณ์หรือจะร้องต่อศาลนั้นก็แล้วแต่สิทธิ์แต่คงไม่รอเวลาให้ดำเนินการเพราะไม่เกี่ยวกัน เนื่องจากคำสั่งจังหวัดถือเป็นคำสั่งปกครอง และดำเนินการในที่สาธารณะซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดินที่สามารถกระทำได้