xs
xsm
sm
md
lg

“นปพ.” ศรีสะเกษปะทะเดือดแก๊งค้าไม้พะยูงเถื่อน - รวบ 8 ผู้ต้องหาบาดเจ็บ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ตำรวจ “นปพ.” ศรีสะเกษ ยิงปะทะเดือดแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงขายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผลกลุ่มมอดไม้ถูกยิงเจ็บ 1 ราย จับกุมได้ผู้ต้องหา 8 คน พร้อมไม้พะยูง 43 ท่อน ปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกและรถยนต์ปิกอัพ 1 คัน เผยพบปลอกกระสุน “อาก้า” ตกในที่เกิดเหตุ คาดมีกองกำลังต่างชาติเป็นชุดคุ้มกันแต่อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ ด้านผู้ว่าฯ ศรีสะเกษเผยเป็นการจับกุมแก๊งมอดไม้รายใหญ่ของอีสานใต้

วันนี้ (25 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.ต.ธัชพงษ์ พรหมมา สว.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และ ร.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) สืบทราบว่า จะมีการลักลอบซื้อขายไม้พะยูงกันที่บริเวณทิศตะวันออกบ้านตาอุด ม.5 ต.ตาอุด อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และ ตำรวจ นปพ.ศรีสะเกษ จำนวนหนึ่งเข้าดักซุ่มเพื่อทำการจับกุม

ต่อมาได้มีรถปิกอัพวิ่งเข้ามาจอดบริเวณดังกล่าว จากนั้นได้มีชาวบ้านและชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งมาช่วยกันขนไม้พะยูงขึ้นรถ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ไหวตัวพากันวิ่งหลบหนีไป ในขณะเดียวกันชุดคุ้มกันขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงได้ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเข้าจับกุมเสียงดังสนั่นไหวไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เพื่อป้องกันตัว ปะทะกันนานประมาณ 10 นาที

ปรากฏว่า กลุ่มคนร้ายซึ่งมีประมาณ 20 คน ได้อาศัยความมืดหลบหนีไปเหลือเพียงผู้บาดเจ็บและพวกอีกจำนวนหนึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งตำรวจคาดว่ากลุ่มคนร้ายที่ยิงถล่มตำรวจเป็นกองกำลังต่างชาติที่รับจ้างเข้ามาคุ้มกันขบวนการลักลอบตัดและซื้อขายไม้พะยูงเถื่อนในครั้งนี้

เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเคลียร์พื้นที่พบว่ามีชาย –หญิง 8 คนอยู่ในที่เกิดเหตุ ใกล้กันมีรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อ ฟอร์ดเรนเจอร์ สีส้ม หมายเลขทะเบียน กข 5036 ศรีสะเกษ จอดอยู่ และไม้พะยูงจำนวน 43 ท่อน อยู่บนท้ายกระรถและกองอยู่กับพื้นในที่เกิดเหตุ โดยมีชาย 1 คน ถูกยิงที่บริเวณต้นคอ หัวไหล่ได้รับบาดเจ็บ จึงได้รีบนำตัวคนเจ็บส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลขุขันธ์

นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบริเวณเกิดเหตุยังพบอาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อไทยประดิษฐ์ตกอยู่ โดยมีกระสุนปืนบรรจุอยู่ 6 นัด ถูกยิงไปแล้ว 3 นัด และพบปลอกกระสุนปืนอาก้า จำนวน 8 นัด ตกอยู่ใกล้กัน จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ไปที่ สภ.ปรือใหญ่ เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไป

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดชื่อ

1.นางผกามาศ สุธิยาศรี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม. 9 ต.คูตัน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็นผู้มารับซื้อไม้จากชาวบ้าน
2.นายสมบัติ สุตตะนนต์ (ยอด) อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม. 8 ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด กลุ่มผู้มารับซื้อไม้ ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถูกยิงต้นคอ หัวไหล่ 3 แผล
3.นางจีราพร ภวภูเวศ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 ม. 1 ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นกลุ่มผู้มารับซื้อไม้
4.นายสมาน วัฒนา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม. 3 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นกลุ่มผู้หาไม้มาส่งขาย
5.นายสุรพล โคตะมา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 ม. 2 ต.สำโรงพลัน อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ เป็นกลุ่มผู้ตัดไม้มาขาย
6.นายบุญจง บุราคอน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ม. 5 บ้านเรือทอง ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ไปยกไม้ในที่เกิดเหตุ
7.นายสนธยา สมประสิทธิ์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม. 7 ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ไปยกไม้ในที่เกิดเหตุ
และ 8.นายสมภาร ธรรมบันเทิง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม. 7 ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ไปยกไม้ในที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา “ร่วมกันทำไม้ มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง” ส่วนข้อกล่าวหาอื่นอยู่ระหว่างการพิจารณา คือ การต่อสู้และขัดขวางเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งมอบให้ พ.ต.ท.ชาคริต ศรีสำราญ พงส.สบ.3 สภ.ปรือใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเวลา 11.00 น.วันเดียวกันนี้ (25 มี.ค.) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.อ.ธัญญา เกียบรติสาร ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 พ.ต.อ.อุดม แย้มนวล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ศรีสะเกษ ได้มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษ กำลังเร่งดำเนินการจับกุมปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่และในครั้งนี้เป็นการจับกุมแก๊งลักลอบค้าไม้พะยูงรายใหญ่ในเขตอีสานใต้ได้ ซึ่งสามารถจับกุมได้ผู้ต้องหาและของกลางเป็นจำนวนมาก โดยไม้พะยูงที่จับกุมได้ในครั้งนี้หากสาสมารถส่งไปขายต่างประเทศสำเร็จจะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท





กำลังโหลดความคิดเห็น