ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.สภ.สังขะ ร่วม ตชด.ที่ 214 และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.สุรินทร์ ตั้งด่านสกัดจับรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกไม้พะยูงเถื่อนมาเต็มคันรถกว่า 200 ท่อน มูลค่ากว่า 2 ล้าน พร้อมผู้ขับรถ อ้างเป็นไม้ซื้อมาถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานพบพิรุธอื้อ จึงยึดไม้ของกลางทั้งหมดไว้ตรวจสอบดำเนินคดี เผยหากส่งออกขายต่างประเทศได้มีมูลค่าเพิ่มอีกกว่า 10 เท่าตัว
วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุรินทร์ ว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ที่บริเวณสี่แยกสังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายสีคิ้ว-เดชอุดม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่ 214 นำโดย พ.ต.ท.กุลภัทร์ อุทธิเสน ผู้บังคับการกองร้อย ตชด.ที่ 214 สังขะ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่หน่อยป้องกันรักษาป่าไม้สังขะ จ.สุรินทร์ ได้ตั้งด่านตรวจสกัดจับขบวนการลักลอบตัดไม้หวงห้าม ตามแนวพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายข่าว ว่า จะมีการลักลอบขนไม้พะยูงผิดกฎหมาย ที่ลักลอบตัดจากป่าตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก เขต อ.สังขะ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ และ อ.ภูสิงห์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แล้วนำมารวบรวมกันไว้ตามหมู่บ้านต่างๆ ก่อนนำขึ้นรถบรรทุกที่นัดหมายไว้กับนายทุนผู้ซื้อไม้พะยูง และใช้ทางหลวงหมายเลขที่ 24 เป็นเส้นทางในการขนย้ายไม้ออกจากพื้นที่
ขณะที่เจ้าหน้าชุดผสมทำการตั้งด่านตรวจอยู่บริเวณดังกล่าว พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน ตัวแม่ 84-6096 สระบุรี และตัวลูกพ่วง ทะเบียน 83-0029 สระบุรี มีผ้าใบปิดคลุมมิดชิด วิ่งมาตามเส้นทางและพยามยามหลบหนีด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเรียกรถให้หยุดตรวจ
เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในรถบรรทุกคันดังกล่าว พบว่า มีไม้พะยูงตัดเป็นท่อน ความยาวประมาณ 3 เมตร และหน้าตัดกว้างประมาณ 30-50 เซนติเมตร บรรทุกมาเต็มคันรถบรรทุกพ่วง จำนวนกว่า 200 ท่อน มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ซึ่งหากสามารถนำส่งขายออกต่างประเทศได้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10 เท่าตัว และได้นำตัว นายจำรัส สมานมิตร อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 90 ม. 2 ต.ปะใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี คนขับรถมา สอบสวน
นายจำรัส ให้การเบื้องต้นอ้างว่า ไม้ทั้งหมดตัวเองรับซื้อมาจากสถานีตำรวจต่างๆ และหน่วยงานต่างๆ ในเขต อ.ลำดวน และ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นไม้ที่ถูกจับกุม และคดีความหมดอายุแล้ว และไม้บางส่วนได้ซื้อมาจากชาวบ้าน ที่มีการขออนุญาตตัดไม้ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธ์เป็นโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งแสดงหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการตรวจสอบ และบอกว่า ตัวเองเป็นเจ้าของโรงงานแปรรูปไม้ ทำเฟอร์นิเจอร์ ตั้งอยู่ที่บ้านตะโก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการตรวจสอบหลักฐานที่ นายจำรัส อ้างถึง รวมทั้งจากการสอบสอบปากคำนายจำรัส แล้วพบว่า มีการให้ปากคำที่สับสนและข้อมูลไม่ชัดเจนพบข้อพิรุธหลายอย่าง จึงทำการควบคุมตัวไม้สอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และขยายผลการจับกุมผู้ร่วมขบวนการลักลอบตัดและค้าไม้พะยูง ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามต่อไป