สกลฯ ร้อนจัดผลผลิตโคนมลด-หัวอาหารขึ้นราคาวอนรัฐช่วยด่วน

สกลนคร - พิษราคาน้ำมันแพงถีบค่าอาหารวัวขึ้นเกือบเท่าตัว ขณะที่ราคารับซื้อน้ำนมดิบยังคงเท่าเดิม ซ้ำอากาศร้อนจัดวัวให้นมน้อยลง วอนภาครัฐแก้ไขขยับราคารับซื้อน้ำนม หวั่นขาดทุน

กลุ่มผู้เลี้ยงโคนมในเขตพื้นที่ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร กว่า 150 ราย ที่เลี้ยงโคนมทั้งหมดกว่า 2 พันตัว และต้องนำน้ำนมดิบไปจำหน่ายให้แก่สหกรณ์โรงนมภูพาน ที่บ้านหนองยาง ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริฯ ออกมาเรียกร้องให้ปรับราคาที่รับซื้อน้ำนมดิบให้สูงขึ้นอีก เนื่องจากในปัจจุบันราคาน้ำมันสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่าย ทั้งค่าขนส่งค่าอาหารวัว มิหนำซ้ำจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอุณหภูมิ 37-38 องศา ทำให้ผลผลิตโคนมหรือน้ำนมดิบลดน้อยลง เกษตรกรจึงต้องฉีดน้ำคลายร้อนให้วัวเกือบตลอดทั้งวันซึ่งเท่ากับเพิ่มต้นทุนการผลิต

นายสมาน พวงมาลัย อายุ 45 ปี กลุ่มผู้เลี้ยงโคนม บ้านโนนสวรรค์ ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง จ.สกลนคร กล่าวว่า ตนมีโคนมกว่า 50 ตัว ประกอบอาชีพเลี้ยงโคนมจำหน่ายเป็นหลักกว่า 20 ปี ซึ่งในตอนนี้ต้องยอมรับว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ได้สร้างความเดือดร้อนต่อตนเป็นอยากมากเพราะที่ฟาร์มของตนได้ผสมอาหารข้น ให้วัวเอง ซึ่งต้องใช้วัตถุดิบที่แพงขึ้นจากเดิม

ประกอบด้วย มันบดแห้งจากกิโลกรัมละ 4 บาท ปรับขึ้นเป็น 6 บาท กากถั่วเหลืองเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา กระสอบละ 800 บาท ปัจจุบันตกระสอบละ 1,400 บาท อ้างว่าขึ้นตามสภาวะราคาน้ำมันที่ขึ้นราคาทุกวัน แต่ขณะที่ราคารับซื้อน้ำนมดิบยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 13 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาต่ำมาก

นายสมาน กล่าวว่า ในแต่ละวันตนรีดนมวัวได้ 250 กิโลกรัม ลงทุนค่าอาหาร 1 วันตกประมาณ 2,200 บาท เมื่อนำผลผลิตที่ได้ไปจำหน่ายในราคารับซื้อน้ำนมดิบกิโลกรัมละ 13 บาท เมื่อบวกลบกับรายจ่ายแล้ว แทบจะไม่เห็นกำไรเลย มิหนำซ้ำในช่วงนี้จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้แม่โคผลิตน้ำนมได้น้อย บางตัวเต้านมอักเสบ ไม่สามารถผลิตน้ำนมดิบได้เลย ทำให้ผลผลิตยิ่งน้อยลงไปอีกและสิ้นเปลืองน้ำ ในการอาบให้ตลอดวันทั้งก่อนและหลังรีดนมเพื่อคลายความร้อน

ขณะนี้มีเกษตรกรหลายรายที่ขาดทุนจนต้องหยุดการเลี้ยงโคนมไปแล้วเพราะสู้ค่าหัวอาหารสัตว์ไม่ไหว จึงอยากวอนภาครัฐช่วยปรับราคารับซื้อน้ำนมดิบให้สูงขึ้นกว่านี้ และแก้ปัญหาราคากากถั่วเหลืองที่มีราคาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวด้วย