จี้สอบ “ทหาร” ลอบตัดป่าชุมชนพะเยาทำสวนยาง

พะเยา – ชาวบ้านฮือร้อง 9 หน่วยงานสอบ “ทหาร” ลอบตัดป่าชุมชน 3 หมู่บ้านทำสวนยางพารา จี้สอบที่มาเอกสารสิทธิที่ดิน ในพื้นที่ป่าที่มีอายุกว่า 100 ปี ด้าน นอภ.ภูซาง พื้นที่เกิดเหตุนัดประชุมทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องวันนี้ (25 มี.ค.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ที่ 2,3 และ 10 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ประมาณ 150 คน ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชุมชนของ 3 หมู่บ้านที่คนท้องถิ่นเรียกว่าป่าสันก้อดหมู บริเวณบวกเฒ่าเขียว พบว่ามีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าอย่างหนัก ซึ่งพื้นที่ป่าดังกล่าวเป็นป่าเต็งรังดั้งเดิมมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี สภาพป่าไม่เคยผ่านการทำกินมาก่อน ดังนั้น ผู้นำในพื้นที่จึงได้ร้องเรียนไปยังผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 15 เชียงราย เพื่อดำเนินการตรวจสอบเมื่อ 24 มี.ค.ตลอดทั้งวัน

นายทอง ใจคำสุข กำนัน ต.สบบง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2551 ที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งลักลอบตัดไม้บริเวณบวกเฒ่าเขียว อันเป็นพื้นที่ป่าชุมชนของหมู่บ้านเนื้อที่ประมาณ 19 ไร่ ไม่ต่ำกว่า 500 ต้น

หลังจากการสอบถามชาวบ้านที่รับจ้างเปิดเผยว่า มีนายทหารสังกัด ร17 พัน4 อ.เชียงคำ ได้ว่าจ้างให้ตัดให้หมดเพื่อใช้เป็นพื้นที่ปลูกยางพารา เมื่อตนและสารวัตรกำนันพร้อมกับคณะกรรมการในหมู่บ้านเข้าไปตรวจสอบพบนายทหารในเครื่องแบบ 1 นาย นอกเครื่องแบบ 2 นาย พร้อมอาวุธครบมือแสดงตนว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ดังกล่าว โดยอ้างสิทธิในการครอบครองเป็นเอกสารสิทธิ ประเภท น.ส.3 ก ซึ่งได้ซื้อต่อมาจากนายประยูร นางลัดดา ฝีปากเพราะ เจ้าของเดิม

กำนัน ต.สบบง กล่าวต่อว่า พื้นที่ดังกล่าวจำนวน 19 ไร่ อยู่ติดพื้นที่ป่าชุมชนของสามหมู่บ้านพร้อมทั้งได้ถูกกันไว้เป็นพื้นที่ป่าชุมชนอีกผืนหนึ่งให้ชาวบ้านได้ประกอบอาชีพหาของป่ายามว่างจากทำเกษตรกรรม ตนสงสัยที่มาของเอกสารสิทธิ เพราะสภาพป่าสมบูรณ์มากกว่า 100 ปี ออกเอกสารสิทธิได้อย่างไร

ดังนั้น จึงประชุมกับชาวบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านทั้งสามหมู่บ้าน มีมติทำหนังสือร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมจากภาครัฐให้ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ และเอกสารสิทธิฉบับดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ซึ่งคณะกรรมการหมู่บ้านได้ส่งหนังสือร้องเรียนถึง 6 องค์กรหลัก คือ นายอำเภอภูซาง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักนายกรัฐมนตรี

นายกรกฤต รวมสุข คณะกรรมการหมู่บ้านหมู่ 2 กล่าวว่า วันที่ 24 มี.ค.51 ที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน ได้มีเจ้าหน้าที่ป่าไม้จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 15 เชียงราย ประมาณ 30 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่บวกเฒ่าเขียวที่มีปัญหา พบว่ามีการตัดไม้เต็งรังกองไว้บริเวณทางเดินเท้ากลางพื้นที่จำนวน 5 กอง ชาวบ้านช่วยกันตรวจนับและทำสัญลักษณ์ไม้จำนวน 57 ท่อน มีความยาวประมาณ 5-10 เมตร อายุไม้ไม่ต่ำกว่า 50 ปี โดยไม้จำนวนนี้ถูกนำไปเก็บไว้ ณ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พย 9 (เชียงคำ) เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึดเพื่อพิสูจน์ทราบ

พร้อมกันนี้ นายอำเภอภูซางได้นัดหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ และการออกเอกสารสิทธิ ตลอดจนถึงประชาชนสามหมู่บ้าน ต.สบบง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม อ.ภูซาง ในวันนี้ (25 มีนาคม) เพื่อหาแนวทางดำเนินการแก้ปัญหาในขั้นตอนต่อไป

นายสมชาติ พวงพะยอม หัวหน้าวนอุทยานภูลังกา อดีต หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พย 9 (เชียงคำ) และประชาชน ต.สบบง กล่าวว่า ตนเคยรับผิดชอบผืนป่าแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นพื้นที่ป่าสงวน ปัจจุบันพื้นที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่บริเวณที่เกิดเหตุสภาพป่าเป็นป่าไม้หนาแน่น มีไม้เต็งรังขนาดใหญ่-ลูกไม้ขึ้นทั่วไป ในครั้งนี้ตนเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะพยานและต้องทำบันทึกรายงานให้กับผู้อำนวยการสำนักฯ 15 ทราบ

เบื้องต้นในการดำเนินการครั้งนี้พบว่า ในขณะตรวจสอบได้ตรวจพบไม้กระยาเลยท่อน จำนวน 57 ท่อน มีการตัดต้นไม้กระจัดกระจายรอบพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ และไม่พบผู้ใดมาแสดงตัวหรือแสดงหลักฐานในการเป็นเจ้าของไม้ ลักษณะพื้นที่เป็นป่าเต็งรังและมีลูกไม้ยืนต้นขึ้นอยู่หนาแน่น มีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ประปราย พื้นที่ยังไม่เคยผ่านการทำกินในลักษณะไร่สวนมาก่อน เมื่อสภาพเป็นป่าไม้ขึ้นหนาแน่นแต่กลับมีการออก น.ส.3 ชาวบ้านจึงสงสัยที่มาของเอกสารสิทธิ และยืนยันว่าจะขอตรวจสอบ และต่อสู้เรื่องการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าแห่งนี้ให้ถึงที่สุด