กาฬสินธุ์- ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ตั้งกรรมการสอบแก๊งงาบป่าลำปาว ลั่นสืบสาวถึงใครฟันไม่เลี้ยง เน้นคนพื้นที่ตั้งแต่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการประจำเขื่อน ตำรวจถึงนายทุนใหญ่ เผยฝ่ายปกครอง กรมป่าไม้รวมแล้วได้ 8 คดี ขณะที่ผลการตรวจยึดไม้ในเขตป่าลำปาวเสียหายถึง 250 ไร่ ยึดของกลางไม้ป่าแล้ว 189 ท่อน ไม้แปรรูป 241 แผ่นมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นกว่า 20 ล้านบาท
ความคืบหน้ากรณีกองกำลังผสมจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ทั้งจากกาฬสินธุ์และขอนแก่น เข้าตรวจสอบและทำการยึดไม้ป่าในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือเขื่อนลำปาว ซึ่งถูกกลุ่มนายทุน ข้าราชการ ชาวบ้าน ได้ฉวยโอกาสลักลอบตัดไม้ ระหว่างที่เขื่อนลำปาว กำลังดำเนินโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพตัวเขื่อน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมในงบประมาณสูงถึง 1,820 ล้านบาท ซึ่งจำเป็นที่จะต้องทำการตัดป่าในพื้นที่ต้นโครงการฯ ตรงหัวงานด้านทิศใต้ที่มีพื้นที่ประมาณ 7,000 เมตร
แต่พบว่าพื้นที่ด้านทิศตะวันออกในตำบลลำคลอง กลับถูกแก๊งนายทุนเข้าบุกรักแผ้วถางตัดไม้อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ล่าสุด เมื่อวันนี้( 29 ก.พ.) เวลา 11.00 น.ที่บริเวณป่าลำปาว ด้านทิศตะวันออก โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ นายประชา จิตสุทธิผล ผวจ.กาฬสินธุ์ นายพัณณ์เดชน์ ศรีจันทร์ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายอภิศักดิ์ พลโยราช นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และฝ่ายปกครองกำลังตำรวจอาวุธครบมือกว่า 50 นาย ได้เข้าไปตรวจสอบและรับฟังรายงานความเสียหายของป่าในเขตความรับผิดชอบของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์
โดยได้เดินทางเข้าตรวจสอบตั้งแต่ตรงหัวงานที่มีการเปิดพื้นที่ป่าด้านทิศใต้ และเดินเท้าเข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายของป่า ซึ่งได้พบไม้ท่อนหลากหลายขนาด ไม่ว่าจะเป็นไม้ประดู่ ไม้เต็งรัง ไม้แดง ถูกตัดเสียหายเป็นบริเวณกว้าง ที่ยังมียางไม้ติดอยู่ จากการตรวจสอบยังพบร่องรอยของรถขนาดใหญ่ที่มีการทำทางเข้ามา เพื่อเตรียมการชักลากไม้ที่ถูกตัด
นายประชา จิตสุทธิผล ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการตรวจสอบโดยการรวบรวมของฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในพื้นที่ 1,200 ไร่ ในความรับผิดชอบของเขื่อนลำปาว มีพื้นที่ป่าไม้ถูกตัดเสียหายมากถึง 250 ไร่ และจำนวนตอไม้ที่พบจะถูกตัดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณโดยเฉพาะในเขตตำบลลำคลอง
ในขณะนี้กองกำลังผสม ได้ทำการตรวจยึดไม้ท่อนซุงไว้แล้วจำนวน 189 ท่อน และยังมีไม้แปรรูปอีกจำนวน 241 แผ่น ที่ยังคงให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นตามพื้นที่เป้าหมาย ที่คาดว่าจะมีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท
สำหรับแนวทางในการสืบสวนสอบสวนเพื่อเอาผิดกับแก๊งตัดไม้ป่าลำปาว จะเป็นการร่วมกันทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ กำนันผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในส่วนของ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ได้มอบหมายให้ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นหัวหน้าทีมในการตั้งกรรมการสอบ ส่วนราชการในส่วนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ต้นสังกัดเป็นผู้ตั้งกรรมการสอบ
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องก็ได้มอบให้ผู้บังคับการฯ ดำเนินการตั้งกรรมการสอบ ซึ่งหากสืบสาวถึงใครจะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวต่อว่า เนื่องจากผลการตรวจสอบต้นไม้ที่ถูกตัดพฤติกรรมในการตัดจะมีการตัดที่ใช้เลื่อยยนต์ตัดและคนยืนตัด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ เพราะเป็นการปล่อยปะละเลย ในแนวทางการป้องกันขณะนี้ ได้รายงานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการยึดใบอนุญาตเลื่อยยนต์ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนได้ร่วมกันเป็นหูเป็นตากับทางการ โดยสามารถแจ้งปัญหาการลักลอบตัดไม้ไปยัง นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์
ด้าน พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในการสืบสวนสอบสวนเพื่อเอาผิด จะมีทั้งในกลุ่ม ข้าราชการประจำและข้าราชการตำรวจรวมไปถึง กำนันผู้ใหญ่บ้าน นักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องการจะทำการปราบปรามขบวนการตัดไม้เพื่อเอาผิดตามกฏหมายให้ถึงที่สุด
โดยเฉพาะในส่วนของผืนป่าในเขตลำปาว จึงเป็นคดีที่ได้รับความสนใจเนื่องจากตามรายงานจาก กรมป่าไม้ ไม่เคยมีประวัติ ว่า มีการลักลอบตัดไม้ในเขตโครงการลำปาว เนื่องจากเป็นสถานที่ราชการจะต้องรับผิดชอบดูแล และในขณะนี้ด้านคดี พนักงานสืบสวนได้สอบสวนถึงตัวการใหญ่และได้ทำการรับเรื่องดำเนินคดีแล้ว 1 คดี
ส่วนสำนวนของฝ่ายปกครองที่กำลังส่งมาถึงจำนวน 8 คดีนั้น ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนของ สภ.ลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน และมี ชุดเฉพาะกิจของตำรวจภูธรจังหวัดเข้าร่วมที่คาดว่า ภายหลังจากที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวน ก็จะได้ตัวการใหญ่ที่จะดำเนินคดีตามกฏหมายในทันที
สำหรับปัญหาการลักลอบตัดไม้ในเขตป่าลำปาว ได้รับการเปิดเผยจากประชาชนที่ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และ กรมป่าไม้ ให้เข้าตรวจสอบ โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพของตัวเขื่อนลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ในงบประมาณ 1,820 ล้านบาท
เนื่องจากผลการเปิดตัดไม้เพื่อดำเนินโครงการฯมีเงื่อนงำ มีข้าราชการ ตำรวจ เจ้าหน้าที่และประชาชน ต่างพากันไปตัดไม้กระจายทั่วทุกพื้นที่ จนทำให้ป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เสียหายเป็นจำนวนมาก จนนำมาถึงการขยายผลที่จะมีการดำเนินคดีกับผู้บุกรุกป่ากันอย่างเต็มที่แล้ว