กาฬสินธุ์ - ผบก.กาฬสินธุ์ เข้าตรวจสอบปัญหาการตัดไม้ภายในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว พร้อมทำการขยายผลเพื่อหากลุ่มนายทุนบุกรุกป่า เบื้องต้นเชื่อว่าการตัดไม้กระทำเป็นกระบวนการ และมีข้าราชการของรัฐเข้าไปพัวพัน ขณะที่ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เพิ่งจะตื่นตัวเข้าแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มมอดไม้แล้ว
จากกรณีกลุ่มนายทุนได้ลักลอบตัดไม้ภายในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามคำร้องเรียนของประชาชน ซึ่งเมื่อวานนี้กองกำลังผสมร่วมกับทางจังหวัดและกรมป่าไม้ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบและยึดไม้ป่าหายากจำนวนหลายร้อยท่อนที่ถูก นายทุนได้ฉวยโอกาสตัดไม้ด้วยการอาศัยจังหวะการปรับปรุงเขื่อนลำปาว ที่จะมีการเปิดพื้นที่เพื่อจัดการกับโครงการในงบประมาณ 1,820 ล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ตัดไม้เพื่อใช้ประโยชน์จะอยู่ตรงหัวงานด้านทิศใต้ที่มีระยะทางเพียง 7 พันเมตร แต่กลับพบว่าในพื้นที่ในความรับผิดชอบของเขื่อนลำปาวด้านทิศตะวันออก ในตำบลลำคลองกลับมีการลักลอบตัดไม้
ล่าสุด เมื่อวันนี้ (26 ก.พ.) เวลา 11.30 น.พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ณัฐพล มิ่งพันธ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการ สายสืบ ได้เข้าตรวจสอบและทำการสืบสวนปัญหาการบุกรุกตัดไม้ภายในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมทั้งได้เชิญ นายพรเทพ เหม็งประมูล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว เข้ามาชี้แจงรายละเอียดในการดำเนินโครงการ
โดยเฉพาะการรับสัมปทานโครงการปรับปรุงเขื่อนจำนวน 1,820 ล้านบาท ที่ซึ่งบริษัทเอกชนที่รับสัมปทาน จะต้องทำการบุกเบิกหน้าดินบริเวณทิศใต้ของหัวเขื่อน ที่มีพื้นที่ประมาณ 7 พันเมตร
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ด้านทิศตะวันออกในตำบลลำคลอง ซึ่งเป็นที่ดินในการดูแลของเขื่อนลำปาว กลับปล่อยให้มีการบุกรุก ซึ่ง นายพรเทพ เหม็งประมูล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลถึงบริษัทที่ได้รับสัมปทาน โดยระบุว่า ระบบการจัดการไม้ในพื้นที่ว่าได้ทำไปด้วยความเรียบร้อย มีการขออนุญาต โดยต้องมีการตัดไม้เพื่ออำนวยความสะดวกในการก่อสร้าง ซึ่งทางโครงการก็นำไม้ที่ตัดมารวมไว้ขณะมีอยู่ 129 ท่อน เพื่อรอการประมูลจำหน่าย
แต่ปัญหาการบุกรุกน่าจะเป็นการฉวยโอกาสที่อ้างโครงการปรับปรุง พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่โครงการไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ในพื้นที่ลำปาว
พล.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบตอไม้ที่พบที่ถูกตัดขณะนี้มีกว่า 200 ต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้ป่าที่หายากและมีอายุมากกว่า 50-100 ปี ซึ่งแนวทางขณะนี้ ในด้านการสืบสวน ได้พุ่งเป้าไปที่คนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือนักการเมืองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ในโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ที่จะต้องรู้เห็น เนื่องจากตามรายงานระบุว่า พื้นที่ในความรับผิดชอบของเขื่อนลำปาว จะมีเจ้าหน้าที่เขื่อน เป็นผู้ตรวจสอบดูแล
ดังนั้น ร่องรอยการทำไม้ที่ยังมีการแปรรูป จึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่โครงการฯจะไม่รู้เห็น ส่วนกรณีที่ตำรวจในพื้นที่จะมีส่วนด้วยหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน
ด้าน นายประชา จิตสุทธิผล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานเอาผิดกับข้าราชการ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มนายทุนที่บุกรุกป่า พร้อมให้ นายพรเทพ เหม็งประมูล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน โดยเฉพาะการทำบัญชีการตัดไม้ในโครงการที่ทราบว่าเบื้องต้นจำนวนมากไม่ตรงกับความเป็นจริง
ขณะที่แนวทางการเอาผิดกับกลุ่มนายทุน จะให้ตำรวจสืบหาต้นตอเพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี และหากพบว่ามีข้าราชการเข้าไปมีส่วนพัวพัน จะดำเนินการทางวินัยและทางอาญาทันที
สำหรับการลักลอบตัดไม้ในเขื่อนลำปาว นับเป็นการกระทำที่อุกอาจ เนื่องจากพื้นที่ตัดไม้อยู่ในหมู่บ้านและห่างจากโครงการเพียง 1 กิโลเมตร ซึ่งการตัดไม้ครั้งนี้ น่าจะมีข้าราชการและคนมีสีรู้เห็น ส่วนความเสียหายล่าสุดไม้ที่ถูกตัดมีมูลค่ากว่า 15 ล้านบาทแล้ว