พิษณุโลก - ป่าไม้รวบ 3 ผู้ต้องหาแผ้วถางป่า ระหว่างปักเสายึดพื้นที่แสดงอาณาจักรตัวเอง กลางป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา
วันนี้ (24 มี.ค.) สายตรวจปราบปรามกระทำผิดกฏหมายว่าด้วยการป่าไม้ภาคเหนือ, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.8 (น้ำยาง), หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ประจำจังหวัดพิษณุโลก(นปม.), ร่วมกันออกตรวจป่า หลังจากทราบผลบินตรวจทางอากาศพบ พื้นที่ใหม่ถูกแผ้วถางใหม่ จึงเดินเท้าและดักซุ่มเพื่อจับผู้กระทำความผิด บริเวณป่าเขาห้วยน้ำไคร้ บ้านบ่อ หมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก
พบผู้ต้องหา 3 คน กำลังขุดดินอยู่ขอบแปลง ริมพื้นที่บุกรุกแผ้วถาง 1 จุด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบที่ดิน ทั้ง 3 คนได้หยุดและยินดีให้ป่าไม้ตรวจสอบแต่โดยดี ไม่ได้หลบหนีหรือต่อสู้
ต่อมาทราบชื่อว่า นายบุญมาก อุดมศิลป์ อายุ 74 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 23 หมู่ 6 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก คนที่ 2 ชื่อ นายอนันต์ เกตุแก้ว อายุ 42 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 83 หมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก และคนที่ 3 ชื่อ นายเจดช เกตุแก้ว ราษฎรบ้านเลขที่ 52 หมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีร่องรอยเผาเหลือแต่ตอไม้เล็กๆ ปรากฏอยู่ ตรวจพบว่าเนื้อ 31-2-84 ไร่ ถูกแผ้วถาง อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา พิกัดกลางแปลง 666462, 1863715 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 2,164,024 บาท
เจ้าหน้าที่ป่าไม้สอบสวนเบื้องต้นจากนายบุญมาก อุดมศิลป์กับพวก ได้ความว่า เข้ามาขุดหลุมดินพร้อมปักหลักปูนซีเมนต์ เพื่อแสดงแนวเขตครอบครองที่ดินบริเวณที่บุกรุกแผ้วถางใหม่ ได้รับค่าแรงวันละ 150 บาท แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้พบว่าเป็นพื้นที่บุกรุกใหม่ ลักษณะถางป่าใหม่ มีการเก็บริมเผ้าสุม ไม่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์มาก่อน หรือ ทำกินด้านเกษตรกรรมมาก่อน พบแต่เสาปูนซีเมนต์วางอยู่ 5 หลัก พร้อมอุปกรณ์ขุดหลุมและถางป่า
นายนันทพงษ์ คำปิน หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ร่วมกันแผ้วถางป่า บุกรุก อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครองป่าเพื่อตนเอหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาติ และ ตามพรบ.ป่าสวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ร่วมกันยึดถือคอรบครอง ทำประโยชน์ แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมแก่สภาพป่าสงวน โดยไม่ได้รับอนุญาติ ทำบันทึกเรื่องส่ง พ.ต.ท.สุพัฒน์ กาวิน พนักงานสอบสวนสภ.แก่งโสภาเพื่อสอบสวนหาผู้ที่ครอบครองที่ดินต่อไป
วันนี้ (24 มี.ค.) สายตรวจปราบปรามกระทำผิดกฏหมายว่าด้วยการป่าไม้ภาคเหนือ, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พล.8 (น้ำยาง), หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ประจำจังหวัดพิษณุโลก(นปม.), ร่วมกันออกตรวจป่า หลังจากทราบผลบินตรวจทางอากาศพบ พื้นที่ใหม่ถูกแผ้วถางใหม่ จึงเดินเท้าและดักซุ่มเพื่อจับผู้กระทำความผิด บริเวณป่าเขาห้วยน้ำไคร้ บ้านบ่อ หมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก
พบผู้ต้องหา 3 คน กำลังขุดดินอยู่ขอบแปลง ริมพื้นที่บุกรุกแผ้วถาง 1 จุด เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบที่ดิน ทั้ง 3 คนได้หยุดและยินดีให้ป่าไม้ตรวจสอบแต่โดยดี ไม่ได้หลบหนีหรือต่อสู้
ต่อมาทราบชื่อว่า นายบุญมาก อุดมศิลป์ อายุ 74 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 23 หมู่ 6 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก คนที่ 2 ชื่อ นายอนันต์ เกตุแก้ว อายุ 42 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 83 หมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก และคนที่ 3 ชื่อ นายเจดช เกตุแก้ว ราษฎรบ้านเลขที่ 52 หมู่ 3 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง พิษณุโลก
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีร่องรอยเผาเหลือแต่ตอไม้เล็กๆ ปรากฏอยู่ ตรวจพบว่าเนื้อ 31-2-84 ไร่ ถูกแผ้วถาง อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำวังทองฝั่งขวา พิกัดกลางแปลง 666462, 1863715 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 2,164,024 บาท
เจ้าหน้าที่ป่าไม้สอบสวนเบื้องต้นจากนายบุญมาก อุดมศิลป์กับพวก ได้ความว่า เข้ามาขุดหลุมดินพร้อมปักหลักปูนซีเมนต์ เพื่อแสดงแนวเขตครอบครองที่ดินบริเวณที่บุกรุกแผ้วถางใหม่ ได้รับค่าแรงวันละ 150 บาท แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ป่าไม้พบว่าเป็นพื้นที่บุกรุกใหม่ ลักษณะถางป่าใหม่ มีการเก็บริมเผ้าสุม ไม่ปรากฏร่องรอยการทำประโยชน์มาก่อน หรือ ทำกินด้านเกษตรกรรมมาก่อน พบแต่เสาปูนซีเมนต์วางอยู่ 5 หลัก พร้อมอุปกรณ์ขุดหลุมและถางป่า
นายนันทพงษ์ คำปิน หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ร่วมกันแผ้วถางป่า บุกรุก อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครองป่าเพื่อตนเอหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาติ และ ตามพรบ.ป่าสวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 ร่วมกันยึดถือคอรบครอง ทำประโยชน์ แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมแก่สภาพป่าสงวน โดยไม่ได้รับอนุญาติ ทำบันทึกเรื่องส่ง พ.ต.ท.สุพัฒน์ กาวิน พนักงานสอบสวนสภ.แก่งโสภาเพื่อสอบสวนหาผู้ที่ครอบครองที่ดินต่อไป
