พิษณุโลก - ตำรวจป่าไม้สนธิกำลังป่าไม้ จับนายทุนใต้อ้างเป็นทหารยศแผ้วถางป่าใหม่บนยอดเขาป่าสงวนเนินเพิ่ม พร้อมแรงงาน 12 คน ขณะกำลังรอปลูกยางพารา
วันนี้ (26 ก.ย.) ฝ่ายปฏิบัติการ 3 บก.ปทส.พิษณุโลก สนธิกำลังหน่วยป้องกันรักษาป่าที่หนองกระท้าว, น้ำยาง, น้ำคลาดและซุ้มขี้เหล็ก, หน่วยป้องกันรักษาป่า (นปป.) พิษณุโลก, สายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ และตำรวจตะเวณชายแดน 315 ชาติตระการ บุกเข้าจับกุมนายทุนใต้ที่อ้างว่าเป็นทหาร ยศว่าที่พันตรี ขณะขับรถบรรทุกกล้ายางเต็มคันรถกระบะ ในเขตท้องที่นาจาน หมู่ 2 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
กำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ตรวจสอบพบพื้นที่ถูกบุกรุก อยู่บนยอดเขา แผ้วถางจากป่าใหม่ แต่ไม่มีเศษเผาเนื่องจากน้ำฝนได้ชำระล้าง โดยไม่มีการทำประโยชน์ใดๆมาก่อนและบริเวณข้างๆ ยังเป็นผืนป่าสมบูรณ์อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม พบคนงานจำนวน 13 คน กำลังร่วมกันดำเนินการปลูกยางพารา
คือ ว่าที่ พ.ต.สมยศ เทวฤทธิ์ อายุ 43 บ้านเลขที่ 122/60 หมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช 2.นายสุกรี สุคำภา อายุ 53 ปี 3.นายสายชล ขำมี อายุ 18 ปี 4.นายทนงศักดิ์ เชื้อบุญมี อายุ 15 ปี 5.นายบรรเจิด ปานแจ่ม อายุ 17 ปี 6.นายธนพนธ์ ทองจุฬา อายุ 21 ปี 7.นายชัยรัตน์ เนตรแสงสี อายุ 25 ปี 8.นายคำนึง ป้องสา อายุ 27 ปี 9.นายเหวี่ยง เนตรแสงสี 10.นางวี คำเกตุ อายุ 57 ปี 11.นายพรวิสิทธิ์ ป้องทอง อายุ 24 ปี 12.นางอ้อยใจ สุริ อายุ 35 ปี 13.นางน้อย สุคงเจริญ อายุ 51 ปี ทั้งหมดล้วนอยู่ในภูมิลำเนาตำบลหนองกะท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
สวบสวนเบื้องต้นจากคนงาน ให้การว่า ได้รับจ้างจากเจ้าของที่ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเรียกว่า เถ้าแก่ ในอัตราค้าจ้างวันละ 170 บาท เพื่อว่าจ้างปลูกยางพาราในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว มีหน้าที่ปักหลักแนวปลูก ขุดหลุมและปลูกยางพารา
ขณะที่ ว่าที่ พ.ต.สมยศ เทวฤทธิ์ ให้การเบื้องต้นว่า ตนเข้ามาช่วยเหลือเจ้าของที่ดินชื่อ “ครูข้อ” ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง และไม่ได้รับตอบแทน จึงได้ใช้กระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ พบ-89 นครศรีธรรมราช บรรทุกคนงาน 12 คน เพื่อปลูกยางพารา จากนั้นจึงได้ไปบรรทุกต้นยางจำนวน 450 ต้นกำลังมาปลูก แต่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับกุมเสียก่อน
ด.ต.เทพนคร พ่วงประเสริฐ ตำรวจป่าไม้ ระบุว่า ขณะเข้าจับกุม ได้พบกับคนขับที่บอกว่า เขาเป็นทหารยศว่าที่พันตรี แต่ไม่ได้สังกัดหน่วยงานกองทัพภาคใด เพราะได้เรียนทหารรักษาดินแดน ซึ่งได้ตรวจบัตรประจำตัวก็พบว่ายศว่าที่พันตรีจริง ซึ่งก็ต้องให้ร้อยเวร สภ.นครไทย สวบสวนต่อไป
เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมตรวจสอบโดยละเอียดพบ ร่องรอยการใช้รถแทรกเตอร์ไถ พบหลักฐานตอไม้ รากไม้ เศษไม้ ถูกไถพรวนกระจายอยู่บนยอดเขา ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ป่า ไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์มาก่อน และไม่มีเอกสารสิทธิมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจยึดกระบะยี่ห้อ อีซูซู ดีแมกซ์ ทะเบียน บพ 89 นครศรีธรรมราช 1 คัน มีด 1 เล่ม จอบ 10 เล่ม บุ้งกี๋ 2 อัน เชือกไนล่อนและโซ่ รวม 6 รายการ
ตรวจสอบพื้นที่ทางจีพีเอส คิดเป็นเนื้อที่ 48 ไร่ 3 งาน 40 ตารางวา อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเนินเพิ่ม คิดแล้วค่าเสียหายแก่รัฐจำนวน 3,333,730บาท จึงได้แจ้งข้อหา พ.ต.สมยศ เทวฤทธิ์และพวกรวม 13 คน ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 ข้อหาร่วมกันยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ อันเป็นการทำลายป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ข้อหา ร่วมกันยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ แผ้วถางอันเป็นเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดี กับ พ.ต.ต.ประสาน อินนาคกูล สารวัตรเวร สภ.นครไทย