พิษณุโลก - ป่าไม้ภาคเหนือ ยึดไม้สักท่อนอัดเต็มท้ายกระบะ-แค็บ ขณะวิ่งโร่ส่งขายโรงงานแปรรูปในเมืองสองแควทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ สองแม่-ลูก สารภาพรับซื้อและจ้างโค่นเที่ยวละ 5 พันบาท
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายวิฑูร ชลายนต์นาวิน ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สั่งการให้ นายสักรินทร์ ปัญญาใจ หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกการทำลายป่า จึงมอบให้ นายนันทพงษ์ คำปิน เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 สายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ สนธิกำลังในพื้นที่ประกอบไปด้วย นายษเอมร์ สันป่าแก้ว เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 5 หน.นปม.จ.พิษณุโลก, นายปรีชา พันธุ์รู้ดี จนท.ป่าไม้ 5 หัวหน้าหน่วยฯ พล.16 (น้ำโจน) นำกำลังเข้าตรวจสอบและยึดไม้สักท่อน 29 ท่อน ชนิดเหลี่ยมได้ที่หมู่ 1 ต.คันโช้ง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า มีขบวนการลักลอบตัดไม้หวงห้าม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อย
โดยพบรถกระบะ 1 คัน ต้องสงสัย วิ่งออกมาจากเส้นทางลำลองพื้นที่ป่า จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น พบบุคคล 2 คน ทราบชื่อต่อมา คือ นายพีระพัฒน์ ม่านแดง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61/3 หมู่ 3 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ พิษณุโลก และ นางอ่วม ม่านแดง อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 61/1 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ พิษณุโลก โดยนั่งมาตอนหน้าของรถกระบะ พบไม้สักชนิดเหลี่ยมวางเรียงเต็มกระบะท้ายคลุมมิดชิด และยังมีไม้สักเหลี่ยมขนาดสั้นวางขวางอยู่ตอนในแค็บของรถกระบะยี่ห้อบิ๊กเอ็ม หมายเลขทะเบียน ผ 2470 พิษณุโลก ตรวจสอบพบว่า เป็นไม้สักสด เพิ่งตัดใหม่ มีร่องรอยไถ แปรรูป โดยใช้มีดและขวานถากเป็นท่อนสี่เหลี่ยม ไม่มีร่องรอยตีตราประทับ จึงยึดทั้งหมด
สอบสวนเบื้องต้นจาก นางอ่วม ให้การว่า ตนและลูกชาย นำรถยนต์ดังกล่าวไปบรรทุกไม้สักแปรรูป ซึ่งซื้อและว่าจ้างคนในพื้นที่ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของไม้ตัดโค่น โดยตกลงว่าจ้างและรับซื้อ 5,000 บาท จึงได้เข้ามาทำการขนย้าย โดยนำรถไปบรรทุกไม้สักในป่าห่างจากหมู่บ้าน 10 กิโลเมตร โดยมีคนช่วยขนย้ายขึ้นรถกระบะเพื่อความรวดเร็ว จากนั้นจะนำไปขายต่อให้กับโรงงานแปรรูปในเขตตัวเมืองพิษณุโลก ที่ระบุชื่อเพียงว่า นายป๋อง อยู่ที่ ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ทำการแปรรูปเป็นสิ่งประดิษฐ์ส่งขายอีกทอดหนึ่ง
จากการตรวจนับไม้สักทั้งหมด 29 ท่อน คิดเป็นปริมาตร 1.25 ลูกบาศก์เมตร เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงใช้รูปรอยดวงตรา ต.10513 และ ย.1933 ตีประทับ และอาศัยอำนาจตามมาตรา 64 ทวิ ยึดอุปกรณ์กระทำความผิด คือ รถยนต์กระบะนิสสัน ทะเบียน ผ-2470 พิษณุโลกจำนวน 1 คัน และแจ้งข้อหาทั้ง 2 คนตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ฐาน ทำไม้ เจาะ หรือสับ ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 48 ทำการแปรรูปและมีไม้สักไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต และตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำไม้ อันเป็นเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ชูชีพ แป้นเมือง สารวัตรเวร (สบ3) สภ.วัดโบสถ์