พิจิตร - โครงการรับจำนำข้าว อคส.พิจิตร เสียค่าโง่อีกแล้ว คราวนี้ข้าวเปลือก 170 ตันกลายเป็นแกลบ เจ้าของโรงสีหัวหมอหนีเข้ากลีบเมฆ แต่เตรียมพร้อมจ้างทนายรับหน้า แถมจ้องฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ทำละเมิด บุกตรวจโดยผิดเงื่อนไขสัญญา
รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า พ.ต.ท.ถนอม จินาวา หัวหน้าสถานีตำรวจภูธรตำบลย่านยาว จ.พิจิตร และนายสุโข เลาหไพบูลย์ สายตรวจพิเศษเฉพาะกิจ ตรวจสอบปริมาณข้าวโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ได้นำหมายศาลจังหวัดพิจิตร เพื่อขอตรวจโกดังเก็บข้าวเปลือกของบริษัทรุ่งเรืองไพบูลย์ค้าข้าว ตั้งอยู่ที่ถนนพิจิตร-วังกระดี่ทอง อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นที่เก็บข้าวเปลือกตามโครงการรับจำขององค์การคลังสินค้า ประจำปี 2550 เป็นข้าวเปลือก 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวนเกือบ 11,640ตัน ข้าวสาร 5 เปอร์เซ็นต์ 2706 ตัน
ซึ่งคณะดังกล่าวไปทำการตรวจสอบเมื่อ 22 มี.ค.51 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเจ้าของโกดังได้มอบหมายให้ นายประสิทธิ์ อร่ามมนทิราลัย อายุ 50 ปี ทนายความออกมารับหน้าเจ้าหน้าที่ โดยคราวแรกไม่อนุญาตให้คณะที่ไปตรวจสอบทำการตรวจ ทั้งที่ในคณะมีเจ้าหน้าที่ อคส. ซึ่งถือว่าเป็นผู้เช่าโกดังและถือกุญแจโกดังไว้ แต่ก็ไม่สามารถเข้าทำการตรวจสอบได้จนต้องไปขอหมายศาลเข้าตรวจค้นในที่สุด
เมื่อเข้าตรวจค้นพบว่าในโกดังที่ อคส.เช่าไว้ฝากเก็บข้าวเปลือกที่กองข้าว กลับมีการเปลี่ยนป้ายระบุว่า เป็นข้าวของบริษัท พี บี ไรท์ จำกัด เพื่อหลีกเลียงข้อกฎหมาย และเมื่อทำการตรวจโดยละเอียดพบว่า ข้าวมีปริมาณไม่ตรงตามสัญญา อีกทั้งกลายเป็นข้าวเปลือก ผสมกับแกลบเป็นจำนวนมาก ในเบื้องต้นพบว่า ข้าวเปลือกกลายเป็นแกลบ ประมาณ 170 ตัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายของ อคส. เกือบ 10 ล้านบาท
ล่าสุด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานว่ามีการขโมยข้าวของทางราชการไปหรือไม่ ในส่วนของนายประสิทธิ์ อร่ามมนทิราลัย อายุ 50 ปี ทนายความที่ออกมารับหน้าเจ้าหน้าที่ และเป็นตัวแทนของเจ้าของโรงสี กล่าวว่า สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาฝากทรัพย์ การที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจเช่นนี้เป็นการกระทำโดยละเมิดสิทธิ ที่ถูกต้องแล้วต้องบอกเลิกสัญญาและส่งคืนทรัพย์ที่ฝากไว้ ถ้าไม่มีส่งคืน จึงจะสามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ มิใช่ทำการได้ตามอำเภอใจเช่นนี้
