พิจิตร – อคส.พิจิตรฉาว ข้าวในโกดังหายอีก 2 พันกว่าตัน รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ขณะที่โกดังอีก 2 แห่ง ส่อพิรุธข้าวหายเพิ่ม ผู้ว่าฯสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบด่วน หลังพบร่องรอยวางแผนอำพรางข้าวสารอีก 2 แสนกว่ากระสอบ
ตามที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้มีคำสั่งเลขที่ 92/2551 เรื่องแต่งตั้งสายตรวจพิเศษเฉพาะกิจตรวจสอบปริมาณข้าวสาร ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพื่อตรวจสอบปริมาณข้าวที่เก็บไว้ในคลังสิ้นค้ากลางที่มีอยู่ทั้งหมด 15 แห่งของจังหวัดพิจิตร ระหว่างวันที่ 11-16 มีนาคม 2551
ล่าสุด นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของสายตรวจพิเศษเฉพาะกิจ กระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าตรวจสอบปริมาณข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่เก็บรักษาไว้ในโรงสี และคลังกลางที่จังหวัดพิจิตร พบว่า สตอกข้าวสาร ของ อคส.ในโครงการรับจำนำข้าวปี 2548/2549 ที่โรงสีบริษัทหลิวเจริญทรัพย์ 3 ที่ตั้งอยู่อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร จำนวน 4,693 ตัน จากการตรวจนับสต็อกคงเหลือ 2,622 ตัน ในส่วนที่เหลือได้หายไปจากสต็อกข้าวสาร จำนวน 2,076 ตัน คิดเป็นร้อยละ 44.18% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.บึงนาราง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอหนังสือมอบอำนาจจากสำนักงานองค์การคลังสินค้ากลาง ให้ส่วนภูมิภาคแจ้งความดำเนินคดีในกรณีข้าวหายต่อไป
นายสุเมธ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ชุดเฉพาะกิจได้เข้าตรวจสอบพบโกดังกลางของ อคส. อีก 2 แห่งส่อมีการทุจริตเนื่องจาจกองข้าวสาร 5% มีร่องลอยการล้มของกองกระสอบข้าวสารจำนวน 9 กอง ซึ่งอาจหลีกเลี่ยงการตรวจนับ
ที่โรงสีคณะบุคคลบูรณ์มานีคลังสินค้า เลขที่ 9/5 หมู่ที่ 9 ตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก มีร่องลอยกองข้าวสารที่บรรจุในกระสอบล้ม 3 กอง จำนวน 38,115 กระสอบ และโรงสีคณะบุคลบางมูลบากคลังสินค้า 9/8 หมู่ที่ 9 ตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก มีกองข้าวสาร 5% ล้ม 6 กอง จำนวน 61,902 กระสอบ
โดยจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโกดังของโรงสีทั้ง 2 แห่ง ด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใด พร้อมกับเร่งตรวจนับจำนวนและปริมาณที่แน่นอน หากพบว่ามีปริมาณข้าวที่หายไปจะดำเนินคดีต่อไป
ตามที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้มีคำสั่งเลขที่ 92/2551 เรื่องแต่งตั้งสายตรวจพิเศษเฉพาะกิจตรวจสอบปริมาณข้าวสาร ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เพื่อตรวจสอบปริมาณข้าวที่เก็บไว้ในคลังสิ้นค้ากลางที่มีอยู่ทั้งหมด 15 แห่งของจังหวัดพิจิตร ระหว่างวันที่ 11-16 มีนาคม 2551
ล่าสุด นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของสายตรวจพิเศษเฉพาะกิจ กระทรวงพาณิชย์ ได้เข้าตรวจสอบปริมาณข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่เก็บรักษาไว้ในโรงสี และคลังกลางที่จังหวัดพิจิตร พบว่า สตอกข้าวสาร ของ อคส.ในโครงการรับจำนำข้าวปี 2548/2549 ที่โรงสีบริษัทหลิวเจริญทรัพย์ 3 ที่ตั้งอยู่อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร จำนวน 4,693 ตัน จากการตรวจนับสต็อกคงเหลือ 2,622 ตัน ในส่วนที่เหลือได้หายไปจากสต็อกข้าวสาร จำนวน 2,076 ตัน คิดเป็นร้อยละ 44.18% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.บึงนาราง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอหนังสือมอบอำนาจจากสำนักงานองค์การคลังสินค้ากลาง ให้ส่วนภูมิภาคแจ้งความดำเนินคดีในกรณีข้าวหายต่อไป
นายสุเมธ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ ชุดเฉพาะกิจได้เข้าตรวจสอบพบโกดังกลางของ อคส. อีก 2 แห่งส่อมีการทุจริตเนื่องจาจกองข้าวสาร 5% มีร่องลอยการล้มของกองกระสอบข้าวสารจำนวน 9 กอง ซึ่งอาจหลีกเลี่ยงการตรวจนับ
ที่โรงสีคณะบุคคลบูรณ์มานีคลังสินค้า เลขที่ 9/5 หมู่ที่ 9 ตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก มีร่องลอยกองข้าวสารที่บรรจุในกระสอบล้ม 3 กอง จำนวน 38,115 กระสอบ และโรงสีคณะบุคลบางมูลบากคลังสินค้า 9/8 หมู่ที่ 9 ตำบลหอไกร อำเภอบางมูลนาก มีกองข้าวสาร 5% ล้ม 6 กอง จำนวน 61,902 กระสอบ
โดยจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบโกดังของโรงสีทั้ง 2 แห่ง ด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใด พร้อมกับเร่งตรวจนับจำนวนและปริมาณที่แน่นอน หากพบว่ามีปริมาณข้าวที่หายไปจะดำเนินคดีต่อไป