สกลนคร - มท.2 มอบนโยบายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 19 จังหวัดอีสาน หยอดคำหวานปี52 จะเพิ่มงบอัดฉีดส่วนท้องถิ่นและถ่ายโอนหน่วยงานมาอยู่ใต้อาณัติมากขึ้น อย่างไรก็ตามสำทับการบริหารงานต้องโปร่งใสตรวจสอบได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปเป็นประธานการสัมมนา เรื่องทิศทางการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาล แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตภาคอีสาน 19 จังหวัด กว่า 1 พันคน ซึ่งจัดโดยสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดสกลนคร
นายสุพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้วางกรอบในการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นมากขึ้น อาจจะเกิดปัญหาและอุปสรรคในการทำงานจนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น จึงได้จัดการสัมมนาขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่น ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและบรรลุเป้าหมายตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป และนำผลการสัมมนาไปปฏิบัติในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ของตนเอง
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการสัมมนา ได้เข้าใจบทบาทหน้าที่การปฏิบัติงานตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญยังสร้างความสามัคคี มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการแก้ปัญหาร่วมกันได้อย่างถูกต้องและมีจริยธรรม
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อยากให้ผู้บริหารท้องถิ่นคิดว่าตนเองเป็นตัวแทนของรัฐบาล โดยเป็นรัฐบาลท้องถิ่น มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายในการที่จะส่งเสริมการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างจริงจัง ในปี 2552 จะมีการถ่ายโอนภารกิจมากขึ้น โดยจะมีการจัดสรรงบประมาณให้มากขึ้นกว่าเดิม
โดยรัฐบาลที่ผ่านมา จัดสรรงบประมาณให้ 376,740 ล้าน หรือ 25.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดูแล้วเหมือนมาก แต่เมื่อกระจายไปทั่วประเทศกว่า 7,000 แห่ง ถือว่าน้อยมาก และโดยเป็นจริงแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเก็บภาษีได้เพียง 3 หมื่นล้าน รัฐจัดเก็บอีก 120,000 ล้านบาท แล้วเฉลี่ยลงไปในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ตามองค์กรส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ เช่น อบจ.หรือเทศบาลดูเหมือนว่าจะมีปัญหาน้อย แต่ความจริงแล้วมีมาก แต่องค์กรส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก เช่น อบต.ดูว่ามีปัญหามากแต่จริงๆแล้วมีปัญหาน้อย ดังนั้นจึงขอให้ผู้บริหารทุกคน ได้ดูแลควบคุมให้มีการบริหารจัดการที่ดี ยึดหลักกฎหมายและกฎระเบียบ อย่าทำผิดหรือมีการทุจริต หากสงสัยให้สอบถามท้องถิ่นจังหวัดหรือท้องถิ่นอำเภอ และปลัด อบต.
แต่ถ้ายังเกิดปัญหาอีกก็ขอให้แจ้งแก่ตนเพื่อจะได้จัดการให้ถูกต้อง และยึดหลักคุณธรรมจริยธรรมแม้ถูกกฎหมายแต่ไม่ไม่คุณธรรมก็ไม่ควรทำ เช่นเดียวกับการจัดซื้อหนังสือขององค์กรท้องถิ่นบางแห่งก็ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะทราบมาว่ามีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปเป็นประธานการสัมมนา เรื่องทิศทางการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาล แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตภาคอีสาน 19 จังหวัด กว่า 1 พันคน ซึ่งจัดโดยสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดสกลนคร
นายสุพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้วางกรอบในการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่นมากขึ้น อาจจะเกิดปัญหาและอุปสรรคในการทำงานจนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น จึงได้จัดการสัมมนาขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่น ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและบรรลุเป้าหมายตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป และนำผลการสัมมนาไปปฏิบัติในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ของตนเอง
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการสัมมนา ได้เข้าใจบทบาทหน้าที่การปฏิบัติงานตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่สำคัญยังสร้างความสามัคคี มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการแก้ปัญหาร่วมกันได้อย่างถูกต้องและมีจริยธรรม
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า อยากให้ผู้บริหารท้องถิ่นคิดว่าตนเองเป็นตัวแทนของรัฐบาล โดยเป็นรัฐบาลท้องถิ่น มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายในการที่จะส่งเสริมการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างจริงจัง ในปี 2552 จะมีการถ่ายโอนภารกิจมากขึ้น โดยจะมีการจัดสรรงบประมาณให้มากขึ้นกว่าเดิม
โดยรัฐบาลที่ผ่านมา จัดสรรงบประมาณให้ 376,740 ล้าน หรือ 25.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อดูแล้วเหมือนมาก แต่เมื่อกระจายไปทั่วประเทศกว่า 7,000 แห่ง ถือว่าน้อยมาก และโดยเป็นจริงแล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดเก็บภาษีได้เพียง 3 หมื่นล้าน รัฐจัดเก็บอีก 120,000 ล้านบาท แล้วเฉลี่ยลงไปในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ตามองค์กรส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ เช่น อบจ.หรือเทศบาลดูเหมือนว่าจะมีปัญหาน้อย แต่ความจริงแล้วมีมาก แต่องค์กรส่วนท้องถิ่นขนาดเล็ก เช่น อบต.ดูว่ามีปัญหามากแต่จริงๆแล้วมีปัญหาน้อย ดังนั้นจึงขอให้ผู้บริหารทุกคน ได้ดูแลควบคุมให้มีการบริหารจัดการที่ดี ยึดหลักกฎหมายและกฎระเบียบ อย่าทำผิดหรือมีการทุจริต หากสงสัยให้สอบถามท้องถิ่นจังหวัดหรือท้องถิ่นอำเภอ และปลัด อบต.
แต่ถ้ายังเกิดปัญหาอีกก็ขอให้แจ้งแก่ตนเพื่อจะได้จัดการให้ถูกต้อง และยึดหลักคุณธรรมจริยธรรมแม้ถูกกฎหมายแต่ไม่ไม่คุณธรรมก็ไม่ควรทำ เช่นเดียวกับการจัดซื้อหนังสือขององค์กรท้องถิ่นบางแห่งก็ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะทราบมาว่ามีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
