อุตรดิตถ์- พบปัญหาภัยแล้งหลายพื้นที่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ ต้องประกาศพื้นที่ประสบภาวะภัยแล้ง รวม 8 อำเภอ ราษฎรประสบภัยแล้ว 236 หมู่บ้าน หมื่นกว่าครัวเรือน
จากสภาวะความแห้งแล้งเข้ามาเยือน ทำให้จังหวัดอุตรดิตถ์ต้องประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากราษฎรได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และ น้ำเพื่อการเกษตรกรรมปริมาณน้ำตามห้วยหนองคลองบึงที่มีอยู่ลดลงในปริมาณที่มากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำไม่เพียงพอ
นายธวัชชัย ฟักอังกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งให้แต่ละอำเภอสำรวจพื้นที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งในขณะนี้ปรากฏว่า ราษฎรได้รับผลกระทบ 8 อำเภอ 38 ตำบล 236 หมู่บ้าน 59,510 คน 16,542 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตร 6,518 ไร่ แยกเป็นพืชไร่ 4,590 ไร่ นาข้าว 1,926 ไร่ และจังหวัดได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เก็บกักสำรองน้ำไว้ เพื่อสำหรับอุปโภคบริโภคเพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้ง
พร้อมกันนี้ ยังเร่งให้ความช่วยเหลือ การแก้ไขภาวะประสบภัยแล้งเป็นการเร่งด่วน โดยได้ให้แต่ละอำเภอประสาน กับองค์การบริหารส่วนตำบล ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วนต่อไป
ด้าน นางสายลดา สิทธิวงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ฝ่ายบริหาร เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ปี 2551 เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤต พบปริมาณน้ำในเขื่อนลดลง 10 เซนติเมตร/ต่อวัน ซึ่งถือว่าลดลงมากรองจากปี 2539 (ปีที่ปริมาณน้ำในเขื่อนลดลงมากที่สุด)
ทั้งนี้ คาดว่า จังหวัดอุตรดิตถ์จะประสบปัญหาภัยแล้ง เขื่อนสิริกิติ์จึงเตรียมมาตรการเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่จะได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะแผนด้านการระบายน้ำ จะมุ่งเน้นการระบายน้ำเข้าสู่พื้นที่เกษตรกรรม เพื่อช่วยให้ผู้ที่ทำการเกษตรสามารถใช้น้ำประกอบอาชีพได้ตามปกติ และได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดอีกด้วย