ศูนย์ข่าวขอนแก่น- เกษตรกรปลูกข้าวขอนแก่นครวญรัฐช่วยเหลือช้า หลังประสบปัญหาภาวะภัยแล้งหนัก ตัดต้นข้าวประชดขายฟาร์มวัวกว่า 30 ไร่ พร้อมวอนหน่วยงานรัฐให้ความช่วยเหลือ
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่บ้านหนองแสง อ.บ้านเมืองขอนแก่น ภายหลังจากที่จังหวัดขอนแก่นได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ประสบภัยต้องให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแต่ก็ยังมีชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ
นายปูน นิลชา อายุ 64 ปี เกษตรกรปลูกข้าวบ้านหนองแสง ต.พระคือ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นหนึ่งในเกษตรกรอีกกลายคนที่ต้องตัดต้นข้าวขายให้กับฟาร์มวัวหลักจากที่ต้องประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ที่นากว่า 30 ไร่เศษ ตั้งท้อง แต่ไม่มีเมล็ดข้าว เปิดเผยว่า ตนต้องขาดทุนในเบื้องต้นไปแล้วกว่า 2 หมื่นบาท เนื่องจากไม่มีน้ำเข้านาข้าว ทำให้ต้นข้าวตายและตั้งท้องรวงข้าวก็ไม่มีเมล็ดข้าว
“มีปีนี้ที่แล้งหนัก แล้งกว่าปีที่แล้ว นาข้าวที่ปลูกกว่า 30 ไร่ ต้องตายเพราะขาดน้ำ ส่วนที่เหลือต้องรีบตัดขายให้กับฟาร์มวัวก่อนที่จะตายแล้วขายไม่ได้ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่รู้จะใช้วิธีไหน เพราะหน่วยงานรัฐ และ อบต.ก็ไม่เข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง” นายปูน กล่าวและว่า
ต้นข้าวที่ตัดขายให้กับฟาร์มวัวจะขายกิโลกรัมละ 1-2 บาท เพื่อลดรายจ่ายในการปลูกข้าว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังขายไม่ได้ดี เนื่องจากว่าชาวบ้านที่ปลูกข้าวในแถบนี้พากันตัดต้นข้าวขายกันหมด ทำให้เจ้าของฟาร์มวัวมีตัวเลือกเยอะในการซื้อต้นข้าว
นายปูน ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องน้ำ ที่จำเป็นมากในขณะนี้ เคยเดินรวมกลุ่มกันเดินทางไปขอความช่วยเหลือกับทาง อบต.แต่ก็ช่วยเหลือเป็นครั้งคราวแล้วก็หายไป ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากให้ทางจังหวัดรีบมาดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
สำหรับพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งที่เข้าขั้นวิกฤต มี อ.พล อ.ชนบท อ.แวงน้อง และ อ.แวงใหญ่ อยู่ในพื้นที่เขตเงาฝน ซึ่งทางจังหวัดขอนแก่นได้ตั้งงบประมาณช่วยเหลือในเบื้องต้นอำเภอละ 5 แสนบาท และจะมีการหาลือวางมาตรการเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน พร้อมกับมีการสำรวจความเสียหายในแต่ละพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่บ้านหนองแสง อ.บ้านเมืองขอนแก่น ภายหลังจากที่จังหวัดขอนแก่นได้ประกาศให้พื้นที่ทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ประสบภัยต้องให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนแต่ก็ยังมีชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ
นายปูน นิลชา อายุ 64 ปี เกษตรกรปลูกข้าวบ้านหนองแสง ต.พระคือ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นหนึ่งในเกษตรกรอีกกลายคนที่ต้องตัดต้นข้าวขายให้กับฟาร์มวัวหลักจากที่ต้องประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ที่นากว่า 30 ไร่เศษ ตั้งท้อง แต่ไม่มีเมล็ดข้าว เปิดเผยว่า ตนต้องขาดทุนในเบื้องต้นไปแล้วกว่า 2 หมื่นบาท เนื่องจากไม่มีน้ำเข้านาข้าว ทำให้ต้นข้าวตายและตั้งท้องรวงข้าวก็ไม่มีเมล็ดข้าว
“มีปีนี้ที่แล้งหนัก แล้งกว่าปีที่แล้ว นาข้าวที่ปลูกกว่า 30 ไร่ ต้องตายเพราะขาดน้ำ ส่วนที่เหลือต้องรีบตัดขายให้กับฟาร์มวัวก่อนที่จะตายแล้วขายไม่ได้ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่รู้จะใช้วิธีไหน เพราะหน่วยงานรัฐ และ อบต.ก็ไม่เข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง” นายปูน กล่าวและว่า
ต้นข้าวที่ตัดขายให้กับฟาร์มวัวจะขายกิโลกรัมละ 1-2 บาท เพื่อลดรายจ่ายในการปลูกข้าว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังขายไม่ได้ดี เนื่องจากว่าชาวบ้านที่ปลูกข้าวในแถบนี้พากันตัดต้นข้าวขายกันหมด ทำให้เจ้าของฟาร์มวัวมีตัวเลือกเยอะในการซื้อต้นข้าว
นายปูน ยังบอกอีกว่า ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะเรื่องน้ำ ที่จำเป็นมากในขณะนี้ เคยเดินรวมกลุ่มกันเดินทางไปขอความช่วยเหลือกับทาง อบต.แต่ก็ช่วยเหลือเป็นครั้งคราวแล้วก็หายไป ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากให้ทางจังหวัดรีบมาดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
สำหรับพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งที่เข้าขั้นวิกฤต มี อ.พล อ.ชนบท อ.แวงน้อง และ อ.แวงใหญ่ อยู่ในพื้นที่เขตเงาฝน ซึ่งทางจังหวัดขอนแก่นได้ตั้งงบประมาณช่วยเหลือในเบื้องต้นอำเภอละ 5 แสนบาท และจะมีการหาลือวางมาตรการเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน พร้อมกับมีการสำรวจความเสียหายในแต่ละพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
