ศูนย์ข่าวศรีราชา- เจ้าของที่ดินริมถนนเลียบทางรถไฟเมืองพัทยากว่า 200 คน รวมตัวเข้าพบผู้บริหาร ไขข้อข้องใจกรณีการขอเปิดใช้ทางร่วม หลังมีแผนสั่งทำแนวปิดกั้นตลอดแนวถนน ด้านนายกเมืองพัทยา ย้ำให้สิทธิ์เปิดทางเข้าออกเจ้าของที่ดินเดิม ขณะที่กลุ่มพัฒนาที่ดินและผู้ประกอบการรายใหม่ต้องประสาน รฟท.เสียค่าธรรมเนียมรายปี
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุม ศาลาว่าการเมืองพัทยา กลุ่มประชาชน และเจ้าของที่ดิน บริเวณริมถนนสาย Local Road เมืองพัทยาจำนวนกว่า 200 คน เดินทางเข้าพบ นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหารสมาชิกสภา และหัวหน้าส่วนราชการเมืองพัทยา เพื่อขอรับทราบความชัดเจนเกี่ยวกับการขออนุญาตเปิดช่องทาง ระหว่างที่ดินกับถนนเลียบทางรถไฟ ที่กำลังจะสร้างแล้วเสร็จภายในปีนี้
หลังจากพบว่า ที่ผ่านมา ผู้รับเหมาได้เตรียมจัดสร้างแนวกันถนน หรือ Barrier ตามแนวถนนตลอดเส้นทาง เพื่อกันไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้เส้นทางดังกล่าว แต่จะมีการเปิดช่องให้เฉพาะบริเวณจุดตัดหลักตามซอยต่างๆเท่านั้น ทำให้ประชาชนและเจ้าของที่ดินที่มีที่พักอาศัยอยู่ตามไหล่ทางไม่สามารถเข้าออกได้
ขณะที่กรณีดังกล่าวเมื่อร้องผ่านมายังเมืองพัทยา ก็ไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา เพียงรับทราบว่าเป็นนโยบายของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ชาวบ้านและผู้ประกอบการจะต้องติดต่อประสานงาน ซึ่งถือว่าเป็นความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
กรณีดังกล่าว นายสิทธิภาพ เมืองคุ้ม ปลัดเมืองพัทยา ได้กล่าวชี้แจงในที่ประชุมว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการรถไฟแห่งประเทศไทย มองเห็นแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นสำคัญ โดยจะเห็นได้จากช่วงของการติดต่อประสานงาน เพื่อขอจัดทำถนนในช่วงแรกก็มีการเรียกเก็บใต้โต๊ะ และประโยชน์จากเมืองพัทยาหลายครั้ง ซึ่งเมืองพัทยาก็พยายามอะลุ่มอล่วยเพื่อให้โครงการเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาในภาพรวม จนที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปกว่า 2 ปี ก็มีข้อตกลงในการทำสัญญาเช่าพื้นที่ขึ้นซึ่งเมืองพัทยาต้องเสียค่าเช่าทำถนนฝั่งละ 1 ล้านบาทต่อปี
ขณะที่เมืองพัทยาเองต้องดำเนินการทุกอย่าง ทั้งเรื่องของงบประมาณก่อสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด โดยมีการรถไฟเป็นผู้กำกับดูแล อย่างกรณีของการทำแนวกั้นทางการรถไฟเองก็เป็นผู้ระบุไว้ในสัญญา โดยกันแนวเขตไว้ฝั่งละ 5 เมตร ก่อนสั่งให้มีการปิดกั้นแนว เพื่อหวังให้เอกชนมาเช่าพื้นที่ทำกิน หรือหาประโยชน์จากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากประชาชนในการขอเปิดช่องทางเข้าออกที่ดิน ซึ่งเรื่องนี้เมืองพัทยาไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดและร้องเรียนเข้ามาอย่างหนัก โดยเฉพาะล่าสุดมีการใช้ปัญหาดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ในการหาเสียง และโจมตีทางการเมืองจึงถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
นายนิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า โครงการนี้หากดำเนินการแล้วเสร็จก็จะเกิดประโยชน์กับท้องถิ่นเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก่อนประสานจัดทำนั้นเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสและยากลำบาก เนื่องจากการรถไฟมีปัญหามาอย่างต่อเนื่อง แต่เมืองพัทยาก็สามารถผลักดันจนเป็นผลสำเร็จ
สำหรับปัญหาของแนวกั้นถนน ที่ผ่านมา เมืองพัทยาก็พยายามอธิบายและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อตกลงร่วมกับการรถไฟฯที่จะเปิดช่องทางสำหรับทางตัดถนนสายหลัก และทางเข้าออกที่ดินส่วนบุคคลริมทาง สำหรับที่พักที่ปลูกสร้างมาก่อนการก่อสร้างถนนโดยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม
ขณะที่เจ้าของที่ดินรายใหม่ นักพัฒนาที่ดินที่หวังผลกำไรจากการซื้อขายหลังถนนตัดผ่าน และผู้ประกอบกิจการอพาร์ตเมนต์ ห้องเช่าที่เพิ่งดำเนินการก่อสร้างนั้น คงจะต้องประสานผ่านไปทางการรถไฟเองเพื่อเสียค่าธรรมเนียม ในการเปิดช่องทางเข้าออก ซึ่งเรื่องนี้เมืองพัทยาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนมีปัญหาความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะกรณีของการพักอาศัยมาก่อนการก่อสร้างโครงการ ก็สามารถยื่นเรื่องมายังเมืองพัทยาได้ โดยเมืองพัทยาจะทำการประสานงานไปยังการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาการเปิดช่องทางเข้าออกที่เป็นรูปธรรมต่อไป
