สธ.เชียงใหม่เฝ้าระวัง “ไข้กระต่าย” - ร้านขายสัตว์เลี้ยงวอนอย่ากลัวเกินเหตุ

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สาธารณสุขเชียงใหม่สั่งการโรงพยาบาลและสถานีอนามัยทุกแห่งเตรียมพร้อมเฝ้าระวังรับมือ “ไข้กระต่าย” แม้ยังไม่พบการแพร่เชื้อในพื้นที่ ขณะที่ร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงระบุยอดขายกระต่ายและสัตว์ฟันแทะยังปกติ พร้อมวอนอย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ แนะดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างถูกสุขลักษณะเชื่อไม่มีปัญหา

จากกรณีที่มีการตรวจพบเชื้อและมีผู้เสียชีวิตรายแรกในประเทศไทยด้วยโรค “ไข้กระต่าย” ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยโรคดังกล่าวเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย บาซิลัส Francisella tularensis ส่วนมากมักจะพบในสัตว์ฟันแทะ โดยเฉพาะกระต่ายในต่างประเทศ ทำให้บางครั้งเรียกว่าไข้กระต่าย หรือ Rabbit Fever และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในประเทศแถบยุโรป และอเมริกา

นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประสานไปยังโรงพยาบาลและสถานีอนามัยทุกแห่งให้เฝ้าระวังโรคดังกล่าวนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีการตรวจพบเชื้อในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ก็ตาม ทั้งนี้หากมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวด้วยอาการเป็นไข้ ปอดบวม คล้ายเป็นไข้หวัด ให้มีการซักประวัติว่าเคยสัมผัสใกล้ชิดกับกระต่ายและสัตว์ฟันแทะทุกชนิดหรือไม่

ขณะเดียวกัน ตือนประชาชนที่เลี้ยงกระต่ายและสัตว์ฟันแทะทุกชนิด โดยเฉพาะที่เป็นสายพันธุ์นำเข้าจากต่างประเทศให้คำนึงถึงความสะอาดของสัตว์ที่นำมาเลี้ยงด้วย เพราะเชื้อโรคดังกล่าวสามารถติดต่อสู่คนได้หลายทาง เช่น การสูดลมหายใจ เห็บ หมัด เป็นต้น ดังนั้นจึงควรระมัดระวัง

ขณะที่บรรยากาศร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยง ซึ่งจำหน่ายสัตว์เลี้ยงหลายชนิด รวมทั้งกระต่ายและสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู เป็นต้น ย่านสวนบวกหาด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงมีลูกค้าใช้บริการตามปกติ โดยเจ้าของร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงรายหนึ่ง กล่าวว่า แม้จะมีข่าวการพบเชื้อไข้หวัดกระต่ายและมีผู้เสียชีวิต แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบทำให้การจำหน่ายกระต่ายและหนูของทางร้านลดน้อยลงไปแต่อย่างใด

โดยเฉพาะในส่วนของกระต่ายยังคงสามารถจำหน่ายได้ตามปกติวันละประมาณ 10 ตัว ทั้งนี้กระต่ายที่จำหน่ายอยู่นั้น แม้จะเป็นสายพันธุ์ต่างประเทศ แต่มีการนำเข้ามาเพาะขยายพันธุ์อยู่ในประเทศไทยตั้งแต่กว่า 10 ปีที่แล้ว ประกอบกับทางร้านมีการดูแลความสะอาดเป็นอย่างดี จึงไม่มีความเป็นห่วงในเรื่องเชื้อโรค

ขณะเดียวกัน ห็นว่าไม่ควรจะมีการตื่นตระหนกและหวาดกลัวมากจนเกินไป เพราะหากมีการดูแลความสะอาดสัตว์เลี้ยงอย่างถูกสุขลักษณะ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น