“เจ๊เกียว” ลั่นบุกพบ “รมว.คมนาคม” - รุกขอขึ้นค่าโดยสาร ขู่หยุดเดินรถทั่วประเทศ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “เจ๊เกียว” เตรียมเรียกประชุมผู้ประกอบการรถโดยสารทั่วประเทศสัปดาห์หน้าเพื่อกำหนดท่าที เดินหน้าเรียกร้องขอปรับขึ้นค่าโดยสารอีก กม.ละ 9 สต.อ้างเหตุน้ำมันดีเซลพุ่งกว่า 30 บาท/ลิตร พร้อมบุกพบ “รมว.คมนาคม” ขอคำตอบก่อนสงกรานต์ ขู่หากรัฐบาลยังนิ่งเฉย ผู้ประกอบการอาจหยุดเดินรถโดยสารทั่วประเทศกดดัน

วันนี้ (14 มี.ค.) นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย เปิดเผยขณะเดินทางมาร่วมอภิปรายในงานสัมมนา “แนวทางการให้บริการของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจสนับสนุนการท่องเที่ยว กรณีการจัดระบบบริการการคมนาคมขนส่งทางบก” ที่โรงแรมเฮอร์มิเทจ รีสอร์ทแอนด์สปา อ.เมือง จ.นครราชสีมา จัดโดยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ถึงการขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถประจำทางหลังราคาน้ำมันดีเซลพุ่งสูงกว่า 30 บาท/ลิตรว่า ทางสมาคมฯ ได้เสนอขอปรับราคาค่าโดยสารให้ไปตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว ขณะนี้เรื่องทั้งหมดอยู่ที่กระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการได้ชะลอการปรับอัตราค่าโดยสารมาโดยตลอด เนื่องจากต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องแบกรับภาระค่าครองชีพแพง ประกอบกับเป็นปีมหามงคล เฉลิมฉลองการครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมาคมฯ จึงไม่เคลื่อนไหวในเรื่องนี้

แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลพุ่งสูงกว่า 30 บาท/ลิตรแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการรถโดยสารได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก จึงยืนยันที่จะเดินหน้าขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารที่เสนอไว้คือปรับเพิ่มอีกกิโลเมตรละ 9 สตางค์ ในส่วนของทางรัฐบาลเองก็พยายามแนะแนวทางอย่างอื่นให้ผู้ประกอบการรถโดยสารในการปรับตัวเอง ทั้งการปรับเครื่องยนต์ไปใช้ก๊าซ NGV ที่มีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลแทนการปรับอัตราค่าโดยสาร

แต่การที่จะปรับเปลี่ยนไปใช้ก๊าซ NGV กับรถยนต์โดยสารนั้นจะเปลี่ยนแบบรวดเร็วคงเป็นไปไม่ได้ และต้องลงทุนค่อนข้างสูง ที่สำคัญปั๊มน้ำมันที่ให้บริการก๊าซ NGV มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของรถโดยสารประทาง และรัฐต้องหาเงินมาช่วยเหลือด้วยการสำรองเงินลงทุนไปให้ก่อนถึงจะทำได้ และต้องทำอย่างจริงจัง

“ผู้ประกอบการบอบช้ำกันมานานหลาย 10 ปี เนื่องจากประสบปัญหาหลายอย่าง ทั้งผู้โดยสารมีน้อย เศรษฐกิจตกต่ำ ผู้ประกอบการการค้าต่างๆ ก็ไม่ค่อยใช้บริการส่งสิ่งของสินค้า และยังต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเรื่องการปรับอัตราค่าแรง อีก” นางสุจินดา กล่าว

นางสุจินดา กล่าวอีกว่า การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารถือเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเห็นใจผู้ประกอบการ เพราะภาครัฐเองก็ไม่ได้เข้ามาดูแลหรือช่วยเหลือผู้ประกอบการเลย การที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วรัฐยังจะให้ผู้ประกอบการรถโดยสารอยู่นิ่งหรือไม่ให้ปรับค่าโดยสารคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และสวนทางกัน ซึ่งการปรับอัตราค่าโดยสารมีคณะกรรมการดูแลและคำนวณราคาที่เป็นธรรมอยู่แล้ว

ฉะนั้น ราคาที่ปรับขึ้นไม่ใช่เป็นการเอาเปรียบประชาชนเลย เพราะเชื่อว่าประชาชนต้องการความสะดวกสบาย ต้องการบริการที่ดีคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เขาเสียไปมากกว่า จะขึ้นเท่าไหร่ก็ไม่ว่า หรือหากจะมีการปล่อยลอยตัวราคาค่าโดยสาร เพื่อให้เป็นไปตามกลไกของตลาดส่วนตัวเห็นด้วยอย่างยิ่ง

“เราจะไม่อดทนอีกต่อไป เราจะเดินหน้า แต่จะเดินหน้าอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับคำพูดของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลเรื่องนี้ เราจะใช้คำพูดของรัฐมนตรีมาเป็นโจทก์ ส่วนเราจะเป็นจำเลย และจะเดินตามถ้าอยู่ในเงื่อนไขที่ยอมรับได้ ฉะนั้นรัฐมนตรีที่ดูแลเรื่องนี้ต้องรีบเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด เพราะผู้ประกอบการเดือดร้อนมาก” นางสุจินดา กล่าว และว่า

ภายในสัปดาห์หน้านี้ ทางสมาคมฯจะเรียกประชุมสมาชิกทั่วประเทศ เพื่อหารือในการกำหนดท่าทีต่อรัฐบาล เรื่องการขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร และก่อนช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์จะเดินทางเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอขอปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารอีกครั้ง

“หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยต่อข้อเสนอของสมาคมฯ อาจจะมีการหยุดเดินรถโดยสารทั่วประเทศก็เป็นได้ ส่วนจะให้ปรับก่อนหรือหลังเทศกาลสงกรานต์นั้นคงต้องรอผลการหารืออีกครั้ง แต่เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะเห็นใจผู้ประกอบการและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป” นางสุจินดา กล่าวย้ำ