ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ยืนยันพร้อมทุกด้านเข้าบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แม้ล่าสุดมีการขยายระยะเวลาถ่ายโอน การบริหารออกไปอีก 30 วัน พร้อมโต้ไม่ได้ชุบมือเปิบเข้าบริหาร ระบุมีส่วนร่วมตั้งแต่ผุดแนวคิดแรกเริ่ม ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนผู้รับผิดชอบและย้ายสถานที่ตั้ง ขณะเดียวกันแจงบริหารสวนสัตว์เชียงใหม่กำไร 30 ล้านในปีที่ผ่านมา ไม่ได้ขาดทุนอย่างที่บางฝ่ายโจมตี
จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีความเห็นชอบ ให้ขยายระยะเวลาในการถ่ายโอนการบริหารจัดการโครงการเชียงใหม่จากองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.ไปอยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อไปอีก 30 วัน หลังจากที่ก่อนนี้ มีการกำหนดให้องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์เริ่มเข้าไปดูแลและดำเนินการในกิจการของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.2551
ตลอดจนทั้งมีกระแสข่าวระบุว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการจะเข้าไปดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ว่า เป็นการชุบมือเปิบเพราะไม่ได้มีส่วนร่วมกับโครงการนี้มาตั้งแต่แรกเริ่มนั้น
นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงเรื่องดังกล่าว ว่า ที่จริงแล้วขณะนี้องค์การสวนสัตว์ฯ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเข้าไปดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี อย่างไรก็ตาม จากการประสานกับ อพท.ทราบว่าติดขัดปัญหาทางด้านกฎหมาย โดยเฉพาะในเรื่องของงบประมาณของ อพท. ที่ว่าองค์การสวนสัตว์ฯจะสามารถนำไปใช้ได้หรือไม่ ทำให้ต้องขยายเวลาในการดำเนินการถ่ายโอนออกไปอีก 30 วัน นับตั้งแต่วันนี้ (12 มี.ค.)
ส่วนกรณีที่มีบางฝ่าย แสดงท่าทีไม่มั่นใจศักยภาพขององค์การสวนสัตว์ฯ ในการบริหารจัดการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ยืนยันว่าองค์การสวนสัตว์ฯมีความเป็นมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลและระดับนานาชาติ ทั้งองค์ความรู้ทางด้านวิชาการและทางด้านการดูแลสัตว์ ดังนั้น จึงมีความมั่นใจได้ว่าจะสามารถบริหารจัดการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า จากจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันระหว่างองค์การสวนสัตว์ฯ ที่มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อบริการสังคมกับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่มุ่งเน้นเชิงธุรกิจเป็นหลัก อาจจะทำให้เกิดความติดขัดบ้าง เพราะหากองค์การสวนสัตว์ฯเข้าไปดูแลแล้วมุ่งแต่ในเรื่องของการทำธุรกิจล้วนๆ ก็อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับได้ แต่ในที่สุดแล้วเชื่อว่าจะสามารถวางแนวทางที่เหมาะสมที่สุดได้
สำหรับกรณีที่มีการระบุว่าองค์การสวนสัตว์ฯ ชุบมือเปิบในการเข้าบริหารจัดการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้น นายโสภณ ชี้แจงว่า จุดเริ่มแรกของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี คือการจะขยายพื้นที่ของสวนสัตว์เชียงใหม่ที่มีอยู่เดิม พร้อมทั้งเพิ่มกิจกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไป เพื่อเป็นการสร้างจุดขายใหม่ให้แก่จังหวัดเชียงใหม่
หลังจากที่รัฐบาลมีแนวคิดดังกล่าว องค์การสวนสัตว์ฯก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการศึกษาดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าวตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดมีการนำแนวความคิดดังกล่าวไปปรับและเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ รวมทั้งย้ายสถานที่ตั้งไปอยู่ในที่ตั้งปัจจุบันนี้ จึงทำให้ดูเหมือนว่าทางองค์การสวนสัตว์ฯ ไม่ได้มีส่วนร่วมตั้งแต่แรก ซึ่งไม่เป็นความจริง
นอกจากนี้ ในส่วนของกรณีที่มีการระบุการบริหารงานของสวนสัตว์เชียงใหม่ ในปัจจุบันยังขาดทุน ดังนั้นองค์การสวนสัตว์ฯจึงไม่เหมาะสมที่จะเข้าไปบริหารเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่มีการระบุเช่นนั้น ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีโอกาสได้ชี้แจง โดยการบริหารงานขององค์การสวนสัตว์ฯแม้จะมุ่งเน้นการบริการสังคม แต่ก็สามารถทำกำไรได้บ้างเช่นกัน ซึ่งในปีที่ผ่านมาสวนสัตว์เชียงใหม่ ก็สามารถทำกำไรได้ถึงประมาณ 30 ล้านบาท
“ยืนยันว่า องค์การสวนสัตว์มีความพร้อมในทุกด้าน ที่จะเข้าไปดูแลเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แต่รู้สึกเสียใจเช่นกันที่ต้องถูกโจมตีไปต่างๆ นานาจากเรื่องนี้ ซึ่งในฐานะของผู้ดำเนินการแล้วจากนี้จะรอรับฟังการตัดสินใจ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพียงคนเดียวเท่านั้น หากจะให้องค์การสวนสัตว์เดินหน้าต่อก็พร้อมที่จะทำ” นายโสภณ กล่าว