เชียงราย – โครงการรับจำนำข้าวเมืองพ่อขุน ฉาวอีก หลังข้าวเปลือกหายไปจากโกดังในโครงการ 10,000 ตัน มูลค่าถึง 120 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ อคส.โร่แจ้งความปากเปล่า ขณะที่ตำรวจเตรียมเรียกสอบปากคำ 5-6 มี.ค.นี้ พร้อมเดินหน้าสอบขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง ด้านผู้ว่าฯ เชียงราย สั่งล่าแก๊งยักยอกให้ได้
เจ้าหน้าที่ อคส.เชียงราย ได้เข้าแจ้งความกับ ร้อยเวร สภ.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อให้ติดตามสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้าย ที่ได้ร่วมกันยักยอกข้าวเปลือกนาปี จำนวน 10,000 ตัน มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) จ.เชียงราย หายไปจากโกดัง ห้างหุ้นส่วนข้าวไทยเชียงรายไรซ์มิลล์ ตั้งอยู่บ้านป่าแดด ม.1 ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด โดยก่อนหน้า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2551 ยังพบว่ามีปริมาณครบถ้วน แต่หลังจากนั้น ได้มาตรวจสอบอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ก็พบว่าข้าวจำนวนทั้งหมดได้หายไปจากโกดังเก็บอย่างไร้ร่องรอย สอบถามไม่มีใครรู้เห็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งให้ติดตามข้าวทั้งหมดและนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า ปัญหาการทุจริตยักยอกข้าวเปลือกของบริษัทเอกชน ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกขององค์การคลังสินค้า (อคส.) จ.เชียงราย ยังคงเกิดขึ้นอีก โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ อคส.เชียงราย ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.พนา ยาวิราช สารวัตรเวร สภ.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อให้ติดตามสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้าย ที่ร่วมกันยักยอกข้าวเปลือกนาปี จำนวน 10,000 ตัน มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เชียงราย หายไปจากโกดังห้างหุ้นส่วนข้าวไทยเชียงรายไรซ์มิลล์ ตั้งอยู่บ้านป่าแดด ม.1 ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด ซึ่งมี นายยศวีร์ ศิริคุณานันท์ อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของกิจการ
เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า จ.เชียงราย ให้รายละเอียดกับพนักงานสอบสวนว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ อคส.ได้เข้าตรวจสอบข้าวในโกดังบริษัทแห่งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2551 ยังพบว่ามีปริมาณครบถ้วน แต่เมื่อมาตรวจสอบอีกในวันที่ 27 ก.พ.ก็พบว่าข้าวทั้งหมดหายไปจากโกดังเก็บอย่างไร้ร่องรอย สอบถามไม่มีใครรู้เห็น จึงรายงานทางสำนักงานการค้าภายในจังหวัดเชียงราย ก่อนเข้าแจ้งความเพื่อให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ
ด้าน พ.ต.ต.พนา ยาวิราช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ในคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้ว เป็นคดีเข้าข่ายการยักยอกข้าวที่ได้รับจำนำตามโครงการของรัฐไป ซึ่งมองตามรูปการณ์ เชื่อว่า จะต้องมีบุคคลภายในรู้เห็น อย่างไรก็ตามฝ่ายเจ้าหน้าที่ อคส.ในฐานะผู้เสียหายของรัฐ ได้มาแจ้งความปากเปล่า ยังไม่ได้นำพยานหลักฐาน ที่สามารถระบุได้ถึงที่มาที่ไปของการรับจำนำ เอกสารการรับจำนำข้าว ที่จะชี้ชัดได้ว่าทางโกดังเอกชนรายนี้ ได้เข้าโครงการรับจำนำข้าวกับ ทาง อคส.ตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีจำนวนเท่าไหร่ด้วย ซึ่งจะนัดสอบสวนปากคำในวันที่ 5-6 มีนาคม 2551 ที่จะถึงนี้
รายงานข่าวแจ้งว่าในพื้นที่ ต.ป่าแดด มีโกดังรับจำนำข้าว จำนวน 3 ราย โดยของโกดังห้างหุ้นส่วนข้าวไทยเชียงรายไรซ์มิลล์ นับเป็นโกดังขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่-โกดังเก็บข้าวใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ข้างสำนักงานเทศบาล ต.ป่าแดด เป็นของกลุ่มทุนใหญ่ที่มาจากสุพรรณบุรี ซึ่งระยะหลังไม่ได้เปิดรับจำนำข้าวแต่อย่างใด
ตามแนวทางการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่จะดูด้วยว่าพัวพันกับกรณีข้าวเปลือกหายในท้องที่ อ.แม่จัน และในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ รวมทั้งในพื้นที่ จ.พิจิตร จนเป็นข่าวโด่งดังเมื่อก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างสอบสวนทางลับ เพื่อรายงานนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทราบหลังมีคำสั่งให้ติดตามข้าวทั้งหมด และนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
เจ้าหน้าที่ อคส.เชียงราย ได้เข้าแจ้งความกับ ร้อยเวร สภ.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อให้ติดตามสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้าย ที่ได้ร่วมกันยักยอกข้าวเปลือกนาปี จำนวน 10,000 ตัน มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) จ.เชียงราย หายไปจากโกดัง ห้างหุ้นส่วนข้าวไทยเชียงรายไรซ์มิลล์ ตั้งอยู่บ้านป่าแดด ม.1 ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด โดยก่อนหน้า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2551 ยังพบว่ามีปริมาณครบถ้วน แต่หลังจากนั้น ได้มาตรวจสอบอีกครั้งเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ก็พบว่าข้าวจำนวนทั้งหมดได้หายไปจากโกดังเก็บอย่างไร้ร่องรอย สอบถามไม่มีใครรู้เห็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย สั่งให้ติดตามข้าวทั้งหมดและนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า ปัญหาการทุจริตยักยอกข้าวเปลือกของบริษัทเอกชน ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกขององค์การคลังสินค้า (อคส.) จ.เชียงราย ยังคงเกิดขึ้นอีก โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ อคส.เชียงราย ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.พนา ยาวิราช สารวัตรเวร สภ.ป่าแดด จ.เชียงราย เพื่อให้ติดตามสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้าย ที่ร่วมกันยักยอกข้าวเปลือกนาปี จำนวน 10,000 ตัน มูลค่ากว่า 120 ล้านบาท ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) เชียงราย หายไปจากโกดังห้างหุ้นส่วนข้าวไทยเชียงรายไรซ์มิลล์ ตั้งอยู่บ้านป่าแดด ม.1 ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด ซึ่งมี นายยศวีร์ ศิริคุณานันท์ อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของกิจการ
เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า จ.เชียงราย ให้รายละเอียดกับพนักงานสอบสวนว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ อคส.ได้เข้าตรวจสอบข้าวในโกดังบริษัทแห่งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2551 ยังพบว่ามีปริมาณครบถ้วน แต่เมื่อมาตรวจสอบอีกในวันที่ 27 ก.พ.ก็พบว่าข้าวทั้งหมดหายไปจากโกดังเก็บอย่างไร้ร่องรอย สอบถามไม่มีใครรู้เห็น จึงรายงานทางสำนักงานการค้าภายในจังหวัดเชียงราย ก่อนเข้าแจ้งความเพื่อให้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุ
ด้าน พ.ต.ต.พนา ยาวิราช พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ในคดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้ว เป็นคดีเข้าข่ายการยักยอกข้าวที่ได้รับจำนำตามโครงการของรัฐไป ซึ่งมองตามรูปการณ์ เชื่อว่า จะต้องมีบุคคลภายในรู้เห็น อย่างไรก็ตามฝ่ายเจ้าหน้าที่ อคส.ในฐานะผู้เสียหายของรัฐ ได้มาแจ้งความปากเปล่า ยังไม่ได้นำพยานหลักฐาน ที่สามารถระบุได้ถึงที่มาที่ไปของการรับจำนำ เอกสารการรับจำนำข้าว ที่จะชี้ชัดได้ว่าทางโกดังเอกชนรายนี้ ได้เข้าโครงการรับจำนำข้าวกับ ทาง อคส.ตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีจำนวนเท่าไหร่ด้วย ซึ่งจะนัดสอบสวนปากคำในวันที่ 5-6 มีนาคม 2551 ที่จะถึงนี้
รายงานข่าวแจ้งว่าในพื้นที่ ต.ป่าแดด มีโกดังรับจำนำข้าว จำนวน 3 ราย โดยของโกดังห้างหุ้นส่วนข้าวไทยเชียงรายไรซ์มิลล์ นับเป็นโกดังขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่-โกดังเก็บข้าวใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ข้างสำนักงานเทศบาล ต.ป่าแดด เป็นของกลุ่มทุนใหญ่ที่มาจากสุพรรณบุรี ซึ่งระยะหลังไม่ได้เปิดรับจำนำข้าวแต่อย่างใด
ตามแนวทางการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่จะดูด้วยว่าพัวพันกับกรณีข้าวเปลือกหายในท้องที่ อ.แม่จัน และในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ รวมทั้งในพื้นที่ จ.พิจิตร จนเป็นข่าวโด่งดังเมื่อก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างสอบสวนทางลับ เพื่อรายงานนายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ทราบหลังมีคำสั่งให้ติดตามข้าวทั้งหมด และนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
