xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นยามฯบ้านไผ่ถูกอุ้มหลังไร้เงาตั้งแต่ 7 ก.พ.ขณะแจ้งความ ตร.ตรวจสอบเช่าที่รถไฟฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ร้อง “ยามเฝ้าแผ่นดินพื้นที่บ้านไผ่” ขอนแก่น “กมล เหล่าโสภาพันธ์” หายตัวไปตั้งแต่ 7 ก.พ.ญาติหวั่นถูกอุ้ม โร่ร้องทุกข์ “ศูนย์ข่าวภาคอีสาน ผู้จัดการ-เอเอสทีวี” ช่วยเหลือ เผยก่อนหายตัว “นายกมล” ไปสถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ เพื่อติดตามคดีการเช่าที่ดินรถไฟสร้างอาคารพาณิชย์ไม่โปร่งใส

รายงานข่าวแจ้งว่า นายประเสริฐ เหล่าโสภาพันธ์ ได้เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และเอเอสทีวี นิวส์ 1 จ.ขอนแก่น กรณี นายกมล เหล่าโสภาพันธ์ ในฐานะพี่ชาย ซึ่งเป็นสมาชิกมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และเป็นหนึ่งในเครือข่ายต้านคอร์รัปชัน เพื่อนร่วมรุ่นกับ นายวีระ สมความคิด เพื่อให้ผู้สื่อข่าวช่วยติดตาม นายกมล ที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่คืนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา

“ผมและญาติ ได้แจ้งความทั้งในพื้นที่ พร้อมกับเดินทางเข้าไปร้องทุกข์ถึงส่วนกลาง ที่กองปราบปราม, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายกรัฐมนตรี, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข่าวการปรากฏตัวของ นายกมล ออกมา เกรงว่า หากปล่อยให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้ นายกมล อาจได้รับอันตราย กลายเป็นคดีคนหายเหมือนคดีทนายสมชาย นีละไพจิตร” นายประเสริฐ กล่าว และเล่าต่อว่า

ตนและญาติเชื่อว่าเกิดจากกรณีที่ นายกมล ได้เข้าไปตรวจสอบการเสนอราคาเช่าที่ดินรถไฟ เพื่อก่อสร้างอาคารพาณิชย์ จำนวน 3 ชั้น 5 คูหา ย่านสถานีรถไฟบ้านไผ่ ซึ่งพบว่ามีการก่อสร้างผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งเกี่ยวโยงกับเทศบาลอำเภอบ้านไผ่ อีกทั้งในขั้นตอนการเสนอราคา พบว่า ผู้มายื่นเสนอราคาล้วนเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังเป็นกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต เสนอราคาจัดหาสถานที่ตั้งศาลปกครองขอนแก่น ซึ่ง นายกมล ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านไผ่ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2551 นอกจากนี้นายกมล ยังได้แจ้งความเกี่ยวกับเรื่องข้าราชการของรัฐ กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกหลายคดี

อย่างไรก็ตาม นายกมล ได้กล่าวกับคนในครอบครัว ว่า รู้สึกไม่ปลอดภัยหลังพยายามตรวจสอบเรื่องเช่าที่ดินรถไฟครั้งนี้ จึงได้ทำหนังสือเพื่อร้องเรียนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ผ่าน ผู้กำกับการตำรวจภูธรบ้านไผ่ เพื่อร้องเรียนเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจใน สภ.บ้านไผ่ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กลั่นแกล้งเมื่อนายกมล ติดต่อแจ้งความ หลังพบว่ายังมีการก่อสร้างอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าวต่อ พร้อมกับได้ยื่นคำร้องขอรับการคุ้มครองพยาน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ.2546 เมื่อ 20 มกราคม 2551 ไว้ด้วย

จากนั้น นายกมล ได้พยายามติดตามความคืบหน้าของคดีมาตลอด กระทั่งคืนวันที่ 7กุมภาพันธ์ นายกมล ได้ออกไปติดตามคดีอีกครั้ง ที่ สภ.บ้านไผ่ โดยในช่วง 20.00 น.และ 23.00 น.ยังสามารถติดต่อกันได้ โดย นายกมล ยังอยู่ที่ สภ.บ้านไผ่ จนถึงเวลาประมาณ 02.00 น.ญาติไม่สามารถติดต่อนายกมลได้อีก เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบเพียงว่านายกมลกลับไปแล้ว

ทั้งนี้ ภรรยา นายกมล และญาติ ต่างกังวลในความปลอดภัยของนายกมล และเชื่อว่า น่าจะถูกอุ้ม หรือกำลังอยู่ในอันตราย เนื่องจากระยะทางจาก สภ.บ้านไผ่ ห่างจากบ้านพักนายกมลเพียง 700-800 เมตร อีกทั้งรถยนต์ที่นายกมลขับก็หายไปด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านไผ่ กลับไม่สนใจติดตามหา จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่กองปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อ 9 ก.พ.

นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกมล เป็นเพียงผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสนอราคาเพื่อสร้างอาคารพาณิชย์แต่อย่างใด บุคลิกนายกมลเป็นคนตรงไปตรงมา ชอบติดตามสถานการณ์การเมืองมาโดยตลอด โดยนายกมลได้สมัครเป็นสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมกับคอยตรวจสอบพฤติกรรมหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสมของข้าราชการของรัฐ ตลอดจนจะต่อต้านการกระทำที่ไม่ถูกต้องในพื้นที่ โดยไม่เกรงกลัวอันตราย

เหตุการณ์ล่าสุด คือ ติดตามคดีความไม่โปร่งใส การเช่าที่ดินรถไฟสถานีบ้านไผ่ เพื่อสร้างอาคารพาณิชย์ดังกล่าว ซึ่งญาติเชื่อว่าน่าจะเป็นมูลเหตุสำคัญของการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของนายกมล ตั้งแต่ 7 ก.พ.เป็นต้นมา ถึงขณะนี้ยังไร้วี่แววของ นายกมล ทางญาตินายกมลได้แต่รอคอยด้วยความหวังว่านายกมลจะยังมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ยังไม่พบตัว หรือพบศพ
กำลังโหลดความคิดเห็น