สกลนคร-เจ้าของฟาร์มหมูเมืองสกลนคร อัดอั้นต้องประสบภาวะขาดทุนจากหัวอาหารแพง แถมยังถูกกดราคาหมูเป็นอีก ตัดสินใจเชือดเอง ชำแหละและตั้งเขียงขายเอง แม้ราคาท้องตลาดขายโลละ 120 บาท แต่ขายเพียง 90-10 บาท
จากกรณีที่สภาวะราคาเนื้อหมูในตลาดทุกแห่ง ปรับราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 120 บาท ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ค้า ที่ต้องซื้อเนื้อหมูไปประกอบอาหารจำหน่าย ซึ่งนอกจากจะกระทบต่อตัวเองแล้ว ยังกระทบต่อลูกค้าที่มารับประทานอาหารด้วย เนื่องจากต้องปรับราคาสูงขื้น ทั้งยังลดปริมาณเนื้อหมูในอาหารด้วย
ส่วนผู้ประกอบการฟาร์มหมู ก็เดือดร้อนเช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมาราคาหมูเป็นหน้าฟาร์ม มักจะถูกกดราคา เหลือกิโลกรัมละ 50-55 บาท บางครั้งเหลือเพียง 45 บาทก็มี แต่ก็ต้องจำยอมขายออกไป เนื่องจากแบกรับภาระราคาหัวอาหารที่ถูกปรับราคาขึ้นหลายระลอก หากไม่ระบายออกไปก็ไม่มีเงินทุนหมุนเวียน
นายพงษ์นารถ แก้วก่า อายุ 46 ปี ข้าราชการครู ซึ่งประกอบอาชีพตั้งฟาร์มเลี้ยงหมู เป็นอาชีพเสริมที่บ้านดงสมบูรณ์ ตำบลพังขว้าง อำเภอเมือง ปัจจุบันมีหมูในฟาร์มประมาณ 200 ตัว สิ้นเปลืองค่าหัวอาหารสัปดาห์ละเกือบ 2 หมื่นบาท ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะต้องจำหน่ายหมูเป็นไม่น้อยกว่า 2-3 ตัว ให้กับพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อ เพื่อจะได้นำเงินมาซื้อหัวอาหารและเกิดการหมุนเวียนบ้าง
แต่เมื่อถูกกดราคาลงมาก จึงจำเป็นจะต้องทำการตลาดเชิงรุก ด้วยการชำแหละเอง แล้วนำไปขายเอง โดยในการขายก็ตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ เสียเวลาบ้างแต่ก็คุ้มค่า แถมราคาที่ขายยังถูกกว่าท้องตลาด เนื่องจากทั่วไปขายกิโลกรัมละ 120 บาท
แต่ตนขายเพียงกิโลกรัมละ 90-100 บาทเท่านั้น และยังขายเงินเชื่อสิ้นเดือนค่อยไปเก็บเงิน ที่ผ่านมาตนเสียเปรียบมาก เพราะบางตัวหมู 200 กิโล ขายได้เงิน 5 พันบาท แต่เมื่อชำแหละขายกลับได้ถึงตัวละ 7 พันบาท