ศูนย์ข่าวขอนแก่น - นักศึกษาวิศวะ มข.สร้างเครื่องมือระบบตรวจสอบคลังสินค้าเครื่องประดับทองรูปพรรณและเพชรพลอยสำเร็จ โดยใช้เทคโนโลยีการจำแนกด้วยคลื่นความถี่ แก้ปัญหาความผิดพลาดจากการใช้กำลังคนและเช็กสตอกสินค้าอัตโนมัติ ที่สำคัญเครื่องจะส่งเสียงเตือนเมื่อมีการโจรกรรม หรือลูกค้าชักดาบ
ผศ.ดร.ดารณี หอมดี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กล่าวว่า โดยปกติห้างร้านที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายเครื่องประดับทองรูปพรรณ และเครื่องประดับเพชร พลอย ต้องมีการตรวจสอบคลังสินค้าเป็นประจำหลังปิดร้าน โดยวิธีการนับจำนวนชิ้นของสินค้าด้วยคน หรือใช้การชั่งน้ำหนักรวมของสินค้าที่เป็นทองรูปพรรณโดยการเทสินค้าทั้งหมดลงในเครื่องชั่งแล้ววัดว่าน้ำหนักที่หายไปตรงกับน้ำหนักสินค้าที่ขายออกไปหรือไม่ ซึ่งวิธีการดังกล่าวต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะแล้วเสร็จ อีกทั้งข้อมูลยังมีโอกาสเกิดความผิดพลาดได้
จากประเด็นปัญหาดังกล่าว นักศึกษาในความดูแล คือ นายวิทวัส วรารัตน์ศิริโรจน์ และนางสาวพาฝัน วิโรจน์ยุติ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้ร่วมกันคิดค้นสร้างผลงาน “ระบบตรวจสอบคลังสินค้าเครื่องประดับทองรูปพรรณและเพชรพลอย” โดยใช้เทคโนโลยีการจำแนกด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFID) ขึ้น ใช้สำหรับตรวจสอบคลังสินค้า ทองรูปพรรณ เพชร พลอย ซึ่งมีมูลค่าสินค้าสูง
พร้อมส่งเสียงเตือนเมื่อมีการโจรกรรม ประสิทธิภาพเครื่องมือสามารถตรวจสอบคลังสินค้า ได้รวดเร็ว แม่นยำ ทำการบันทึกข้อมูลสินค้า บริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าการใช้กำลังคน
“ผลงานคิดค้นดังกล่าวได้รับรางวัลชมเชยจากศูนย์เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ NECTEC ในงานจัดประกวดมหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 7 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา”
ด้าน นายวิทวัส วรารัตน์ศิริโรจน์ หนึ่งในทีมผู้สร้างผลงานดังกล่าว เล่าว่า เครื่องมือนี้เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการระบุ หรือชี้เฉพาะโดยใช้คลื่นวิทยุ สำหรับระบบตรวจสอบคลังสินค้าคลังสินค้าเครื่องประดับทองรูปพรรณและเพชร พลอย ด้วยการใช้แผ่นป้ายขนาดเล็ก ซึ่งภายในเป็นขดลวดเหนี่ยวนำคลื่นวิทยุและไมโครชิปที่ใช้ในการเก็บข้อมูลของสินค้าเอาไว้ ผูกไว้กับสินค้าแต่ละชิ้นแล้วใช้เครื่องอ่านที่สามารถถือเคลื่อนย้ายได้ในการเลื่อนอ่านแท็กบนสินค้า ทำให้ไม่ต้องเคลื่อนย้ายสินค้าทุกวันและจัดเรียงใหม่ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองแรงงาน และใช้เวลานาน
ระบบเมื่ออ่านข้อมูลรหัสสินค้าจากแผ่นป้ายแล้ว จะส่งต่อข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์จัดการฐานข้อมูล ซึ่งผู้ใช้สามารถสอบถามฐานข้อมูลต่างๆ จากฐานข้อมูลได้ด้วยคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานง่าย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี ดังกล่าวจะช่วยให้ การตรวจสอบคลังสินค้ามีประสิทธิภาพ รวดเร็ว แม่นยำในการตรวจนับและบันทึกข้อมูลสินค้าในระยะเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังมีราคาแพง แต่ก็คุ้มค่าสำหรับผู้ประกอบการที่ลงทุนกับธุรกิจทองรูปพรรณและเครื่องประดับเพชร พลอย ที่มีมูลค่าสูง และต้องการการบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพ
“เครื่องมือนี้มีความสามารถในการตรวจสอบคลังสินค้า โดยการนำเทคโนโลยี อาร์เอฟไอดี มาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการติดแท็คที่สินค้า ใช้เครื่องอ่านชนิดมือถือในการไล่อ่านสินค้าบนถาดเก็บสินค้าได้เลย ใช้เวลาสั้นๆ ลดข้อผิดพลาดในการนับจำนวนสินค้าผิด นอกจากนี้ยังสามารถจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดสินค้าได้อย่างเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น” นายวิทวัส กล่าวย้ำ และกล่าวต่อว่า
นอกจากนี้ เครื่องมือดังกล่าวยังสามารถจัดทำระบบการจัดทำรายงานอย่างมีประสิทธิภาพได้อีกคือ สามารถนำระบบคอมพิวเตอร์และการจัดการฐานข้อมูลมาช่วยในการเก็บบันทึกรายการบัญชีและคลังสินค้าให้เป็นระเบียบได้ ช่วยให้สามารถคำนวณรายการบัญชีได้อย่างแม่นยำและตรวจสอบวิเคราะห์ผลได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งสามารถแสดงผลเตือนรายการสินค้าที่กำลังจะหมดเพื่อช่วยแก้ปัญหาสินค้าขาดสต๊อก ซึ่งเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นประจำด้วย
ความสามารถอีกด้าน คือ ระบบกันขโมยสินค้า เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี สามารถมาช่วยลดปัญหาขโมยนี้ได้ โดยการบันทึกข้อมูลสินค้าว่ามีการชำระเงินแล้วหรือไม่ลงในแท็ก และใช้ร่วมกับเครื่องอ่านแบบประตูร้าน ซึ่งกรณีนี้ หากสินค้ายังไม่ได้ชำระเงิน ถูกนำออกไปนอกร้าน เครื่องอ่านจะส่งสัณญาณร้องเตือน ช่วยให้สามารถรู้ตัวและติดตามคนร้ายได้ทันท่วงที
