เชียงราย - ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดเชียงราย สั่งจับตาการหาเสียงเลือกตั้ง ชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงรายเป็นพิเศษ หลังจากที่มีคนดังในท้องถิ่น 3 รายลงสมัคร
นายอมรพงศ์ วิชิตะกุล ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง (ผอ.กต.) ประจำจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ได้สั่งจับตาการหาเสียงเลือกตั้ง ชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงราย เป็นพิเศษ หลังจากที่มีคนดังในท้องถิ่นจำนวน 3 ราย ลงสมัคร คือ หมายเลข 1.นายวันชัย จงสุทธนามณี อดีตนายกเทศมนตรี, หมายเลข 2 นายสมพงษ์ กูลวงค์ หรือทนายโต อดีตประธานสภาทนายความ จ.เชียงราย ผู้สมัครในกลุ่มพรรคพลังประชาชน และหมายเลข 3 นายกิจขจร ใจสุข น้องชาย นางรัตนา จงสุทธนามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย
ทั้งนี้ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ มีกลุ่มการเมืองใหญ่อย่างพรรคพลังประชาชน จัดส่งคนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ขณะที่อีกฝ่ายก็เป็นขั้วการเมืองใหญ่ ที่มีการปรับแผนหาเสียงสู้กันตลอดเวลา
นายอมรพงศ์ กล่าวว่า สีสันการเลือกตั้งนายกนครเชียงราย มีกระแสเข้มข้นและมีประชาชนชาวเชียงราย ติดตามการหาเสียงมากกว่าการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หลายเท่าตัว เพราะเป็นศึกเลือกตั้งที่มีการแข่งขันของคนจาก 2 ตระกูลการเมืองในจังหวัด การแข่งขันย่อมมีสูง จึงต้องจับตาและเพิ่มเรื่องการตรวจสอบเรื่องการใช้อิทธิพลมาข่มขู่ทีมงาน หรือหัวคะแนน รวมทั้งการทุจริตซื้อเสียงเป็นพิเศษ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีผลต่อการจัดฐานเสียงการเมืองส่วนท้องถิ่นของทั้งสองฝ่ายมาก จึงเป็นการเลือกตั้งที่สนุกและเข้มข้นอีกสนามหนึ่งของภาคเหนือ
ด้าน นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 และรองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า จะให้ผู้สมัครหาเสียงไปตามครรลอง ไม่มีการใช้อิทธิพลหรือการข่มขู่ตามที่หลายฝ่ายกังวลแน่ จะต่อสู้แบบขาวสะอาด ไม่มีการรุมหรือส่งคนมาลงขนาบ เพื่อตัดคะแนน จะใช้นโยบายเชิงรุก ที่ประชาชนสามารถสัมผัสได้มาหาเสียง และมั่นใจว่าลูกทีมจะได้รับการยอมรับ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า การที่กลุ่มตระกูลจงสุทธนามณี จัดส่ง นายกิจขจร ใจสุข น้องชายร่วมสายเลือด นางรัตนา จงสุทธนามณี นายก อบจ.เชียงราย ซึ่งเป็นภรรยาของนายวันชัย มาลงคู่กับนายวันชัย ในการเลือกตั้งชิงนายกนครเชียงรายครั้งนี้ เป็นการแก้เกมทางการเมือง ไม่ให้ถูกไล่ต้อน หรือถูกกดดันจากกระแสพรรคพลังประชาชน ที่มี นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ดูแลพื้นที่อยู่แต่ฝ่ายเดียว จึงจัดส่งเครือญาติมาลงสมัครคู่ เพื่อขับเคี่ยวกับพรรคพลังประชาชนมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อการรักษาฐานเสียงการเมืองสนามนี้เอาไว้ในขั้วตระกูลจงสุทธนามณี ให้ได้