ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ จัดอบรมท้องถิ่นกระตุ้นการมีส่วนร่วมป้องกันมลพิษอากาศ และปัญหาหมอกควันเชียงใหม่ ขณะที่ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ย้ำ ท้องถิ่นต้องรับจัดเก็บเศษใบไม้กิ่งไม้จากบ้านเรือนประชาชนไปทำปุ๋ยเพื่อลดการเผา พร้อมชี้การปล่อยโคมลอยที่นิยมทำอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหา ทั้งๆ ที่เป็นความเชื่อที่ผิดเพี้ยน
วันนี้ (15 ก.พ.) สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดโครงการรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและการมีส่วนร่วมในการจัดการมลพิษอากาศจังหวัดเชียงใหม่ และอบรมการแก้ไขปัญหาหมอกควัน โดยมี นายชุมพร แสงมณี ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิด และตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประมาณ 100 คน ที่โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับโครงการรณรงค์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และการอบรมการแก้ไขปัญหาหมอกควันในครั้งนี้ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรณรงค์เผยแพร่ความรู้และกระตุ้นการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจังหวัดเชียงใหม่ ในการจัดการมลพิษอากาศและป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน
ทั้งนี้ นายชุมพร กล่าวว่า การป้องกันแก้ไขปัญหานี้มีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมมือกันในการดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการลดเลิกการเผาในที่โล่งทุกชนิดทั้งการเผาขยะ เศษกิ่งไม้ใบไม้ และการเผาป่า
ในส่วนของการเผาใบไม้กิ่งไม้ ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการขอความร่วมมือไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งแล้ว ให้ทำการจัดเก็บเศษใบไม้กิ่งไม้จากบ้านเรือนประชาชนด้วย แล้วให้ใช้เครื่องตัดบดเพื่อทำปุ๋ยอินทรีย์ แทนที่จะปล่อยให้มีการเผาทำลาย ซึ่งน่าจะช่วยป้องกันการเกิดปัญหามลพิษอากาศไปได้ส่วนหนึ่ง
ขณะเดียวกัน ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นต่อความนิยมในการปล่อยโคมลอยในปัจจุบันที่มีการทำกันอย่างแพร่หลายว่า เป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่งของการก่อให้เกิดปัญหามลพิษอากาศ เพราะใช้เชื้อเพลิงที่เผาไหม้แล้วก่อให้เกิดก๊าซและควัน ที่เป็นปัญหาต่อสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้ การปล่อยโคมลอยดังกล่าวในทุกวันนี้ มีการทำกันเป็นจำนวนมาก และทำเป็นประจำ เช่น การปล่อยโคมลอยตามร้านอาหารขันโตก เป็นต้น ทั้งๆ ที่เป็นการปฏิบัติที่ผิดเพี้ยนไปจากประเพณีและวิถีชีวิตดั้งเดิม ซึ่งจากนี้ไปคงจะต้องมีการรณรงค์ในเรื่องนี้กันอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดความเชื่อที่ผิดๆ และก่อให้เกิดปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม