ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวแฉพฤติกรรมนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์ทุกแนวทางหลอกลวงเจ้าหน้าที่เพื่อลักลอบส่งออกไปพะยูงไปยังตลาดต่างประเทศ เผยผลการจับกุมได้เป็นจำนวนมาก
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายสมศักดิ์ พจน์ปฎิญญา ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมด้วยนายธนัท สุวัธนเมธากุล ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนปราบปรามที่ 1 และนายไพศาล ชื่นจิตร ผู้อำนวยการส่วนบริการกลาง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมไม้พะยูงลักลอบส่งออกไปยังต่างประเทศ
โดยการจับกุมในครั้งนี้ได้รับแจ้งจากสายสืบว่าจะมีการลักลอบส่งออกไม้พะยูง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามเฝ้าระวัง โดยพบตู้สินค้าขาออกต้องสงสัย 4 ตู้คอนเทนเนอร์ที่กำลังจะส่งออกไปยังประเทศฮ่องกง โดยเรือ MARCATANIA 802N เที่ยววันที่ 14 ก.พ.นี้โดยระบุชื่อผู้ส่งออกเป็นบริษัท คันที บราเธอร์ จำกัด
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทดังกล่าวได้สำแดงในใบขนสินค้าเป็นเศษเหล็ก แต่จากการเข้าตรวจสอบด้วยเครื่อง X-RAY แบบ Fixed type พบสินค้าด้านในเป็นไม้พะยูงท่อน 700 ท่อน ปิดบังทุกหน้าตู้คอนเทนเนอร์ด้วย เศษเหล็กที่อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเพื่อลวงให้เจ้าหน้าที่หลงเชื่อ โดยรวมน้ำหนักประมาณ 60 ตัน มูลค่าสินค้าประมาณ 5 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดจับกุมสินค้าไม้ทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ในข้อหาสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อกำกัด ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 99,27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานักลงทุนมีการลักลอบนำไม้พะยูงส่งออกไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้แล้ว กว่า 700 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่ากว่า 700 ล้านบาท แต่หากสามารถหลุดรอดไปยังต่างประเทศ มูลค่าของสินค้าจะทวีคูณถึง 5 เท่าตัว ดังนั้น จึงมีรูปแบบและกลวิธีต่างๆที่จะลักลอบส่งออกไปต่างประเทศ เช่น นำไม้ใส่ในตู้แช่เย็น, เปลี่ยนขนาดของตู้คอนเทนเนอร์ จาก 20 ฟุต เป็น 40 ฟุต และนำเศษเหล็กมาปิดบังไว้ข้างหน้า ฯลฯ
ขณะนี้ตู้คอนเทนเนอร์และไม้พะยูงที่ตรวจจับยึดได้กำลังเป็นปัญหาต่อกรมศุลกากร เนื่องจากสถานที่กักเก็บเริ่มไม่เพียงพอเพราะมีปริมาณมากต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเฝ้าดูแล และขณะนี้ได้เสนอถึงหน่วยงานระดับสูงเพื่อดำเนินการกับสินค้าเหล่านี้ให้หมดไป โดยการขายทอดตลาด หรือดำเนินการในรูปแบบไหนก็ได้ แต่ขณะนี้ก็ยังกระทำอะไรไม่ได้เพราะติดปัญหาหลายๆ ประการ จึงขอให้หน่วยงานระดับสูงเร่งพิจารณาโดยเร่งด่วนด้วย