นักเรียนนักเลงในเมืองกาญจน์วางบึ้มป่วนวันวาเลนไทน์

กาญจนบุรี – นักเรียนนักเลงในเมืองกาญจนบุรี ก่อเหตุวางบึ๊มโรงเรียนคู่อริกลางเมืองกาญจนบุรี โชคดีที่โรงเรียนหยุดเรียน ไม่มีใครบาดเจ็บและเสียชีวิต ตำรวจคาดเหตุน่าจะเกิดจากแย่งควงหญิงวัน “วาเลนไทม์”

วันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 10.20 น. พ.ต.ท.สุวิทย์ ห่วงทอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากโรงเรียนเทคโนโลยีกาญจนบุรี ว่า มีเสียงดังคล้ายระเบิดที่บริเวณข้างกำแพงของโรงเรียนเทคโนโลยีกาญจนบุรี ข้างถนนบายพาส หมู่ 11 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

หลังจากรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ที่เกิดเหตุพบ นายคำผิน แพงศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนเทคโนโลยีกาญจนบุรี กำลังยืนรออยู่เพื่อนำตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยจุดเกิดเหตุเป็นซอยข้างถนนบายพาส หมู่ 11 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นถนนลูกรังที่ตัดเลียบกำแพงรั้วโรงเรียนเทคโนโลยีกาญจนบุรี ข้างกำแพงรั้วคอนกรีตมีเศษระเบิดที่ผลิตเอง โดยใช้ท่อพีวีซีสีฟ้าขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว แบบมีหัวปิด 2 ด้านประกบติดกันยาวกว่า 5 นิ้ว มีรอยคราบดินระเบิดติดอยู่ข้างกำแพง กระจายเป็นวงกว้าง 80 เซนติเมตร และมีเศษท่อพีวีซีที่กระจายแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยถูกแรงอัดส่งกระเด็นห่างจากจุดที่จุดระเบิดไกลเป็นระยะทางรัศมี 10 เมตร เจ้าหน้าทึ่งเก็บหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานเพื่อสืบสวนห่าตัวผู้กระทำผิดต่อไป

นายคำผิน ให้การเบื้องต้นว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. โดยน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มเด็กวัยรุ่นประมาณ 14-15 คน ที่มาจับกลุ่มจอดรถจักรยานยนต์จำนวน 7-8 คันที่บริเวณหน้าโรงเรียน พร้อมในมือมีอาวุธ เป็นไม้หน้าสาม หรือคมแฝกในมือ ที่น่าจะมารอหน้าโรงเรียนเพื่อหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักเรียนในโรงเรียน เมื่อเห็นวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวตนจึงไม่ได้เอะใจอะไร เพราะวันนี้ทางโรงเรียนได้สั่งหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากมีการประชุมคณะครูและผู้บริหารจึงหยุดการเรียน

ระหว่างที่ประชุมอยู่ตนได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นจึงวิ่งออกมาดู พบว่า กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดรีบสตาร์ทรถ และรีบขับแยกย้ายหลบหนีไป เมื่อเดินไปถึงที่จุดเกิดเหตุก็พบมีเศษระเบิดและพบร่องรอยการระเบิดที่น่าจะเป็นระเบิดที่ทำขึ้นเอง จากนั้นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อให้มาตรวจสอบ แต่ก็ยังถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งยังดีอยู่ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดของนักเรียน และระเบิดไม่มีการนำเอาเศษเหล็กเศษตะปู หรือสะเก็ดโลหะต่างๆ ผสมไปด้วย จึงทำให้เกิดเสียงดังเพียงอย่างเดียว จึงไม่เกิดอันตรายกับทรัพย์สินมากนัก

นายผิน กล่าวตอว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ลงมือในครั้งนี้น่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนอื่นในเขตพื้นที่เมืองกาญจนบุรีที่มีเรื่องทะเลาะกับนักเรียนของโรงเรียน โดยเรื่องทะเลาะวิวาทและมักจะก่อเหตุชกต่อยกันเป็นประจำ อย่างล่าสุดมีการยกพวกใช้ก้อนหินมาขว้างใส่ป้อมยามหน้าโรงเรียน จนทำให้ให้กระจกป้อมยามแตกเสียหาย และมีการแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนเด็กที่โรงเรียนของตนก็เคยไปก่อเหตุใช้หินปาใส่ป้อมยามโรงเรียนอื่นเช่นกัน และมีการสอบสวนในกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุมีการยอมรับว่า ได้กระทำจริงซึ่งมีการยอมความและชดใช้ค่าเสียหายรวมทั้งได้ทำทัณฑ์บนเด็กคนดังกล่าวไว้แล้วเช่นกัน ซึ่งตนไม่นึกว่าเหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้งในครั้งนี้จะขยายวงรุนแรงมากจนถึงมีการนำระเบิดที่ทำเองมาวางข่มขู่ถึงข้างโรงเรียนในครั้งนี้

หลังการสอบสวน นายคำผิน เปิดเผยอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนจะรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบและร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขโดยจะประสานกับผู้บริหารโรงเรียนคู่กรณีเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะหากปล่อยทิ้งปัญหาไว้แบบนี้อาจจะเกิดเหตุที่บานปลายจนทำให้เกิดความสูญเสียจนไม่สามารถคาดคิดได้ ตรงนี้ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน

มีรายงานข่าวว่า ปัญหานักเรียนนักเลงที่ยกพวกตีกันระหว่างนักเรียนในสถาบันการศึกษาต่างๆในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรีมักเกิดจากการขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องแข่งกันแย่งจีบนักเรียนผู้หญิงและบานปลายจนนำไปสู่การยกพวกตีกันและในระยะหลังมักเกิดเหตุยกพวกตีกันบ่อยครั้งมาก รวมทั้งยังเริ่มมีการนำอาวุธที่ผลิตเองเช่นปืนปากกาและอาวุธของผู้ปกครองที่แอบลักลอบขโมยมานำมาใช้ในการวิวาทอีกด้วย จนล่าสุดถือว่าพัฒนาไปถึงขึ้นผลิตระเบิดมาขว้างใส่โรงเรียนคู่อริในครั้งนี้แล้ว

มีรายงานข่าวล่าสุด ว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดระเบิดมีนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีกาญจนบุรีได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับนักเรียนโรงเรียนสารพัดช่างจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งถือโรงเรียนคู่อริกัน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการสืบสวนทราบว่า สาเหตุที่มีการวางระเบิดในครั้งนี้น่าจะมาจากการแย่งจีบนักเรียนหญิงและเกิดจากการแย่งชิงคู่ควงในเทศกาลวันวาเลนไทม์ในวันนี้