xs
xsm
sm
md
lg

ชาวแม่ปะชายแดนแม่สอดจี้อุตฯตากสั่งปิดลานตากพืชไร่ก่อผลกระทบ สวล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตาก – ชาวบ้านแม่ปะ ชายแดนแม่สอด แห่ร้องเรียนลานตากข้าวโพดกลางชุมชนทำฝุ่นฟุ้ง จี้อุตสาหกรรมจังหวัดสั่งปิด หลังตระเวนร้องเรียนสารพัดหน่วยงาน ขณะที่ผู้ประกอบการยันทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

วันนี้ (5 ก.พ.) นายสุรพงษ์ พินิจเกียรติ วิศวกร สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก พร้อมเจ้าหน้าที่จากอำเภอแม่สอด และ อบต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้ร่วมตรวจสอบโกดังสุ่นเฮียง ของนางสาวอนงค์ เรืองชัยศิวเวท เลขที่ 116 หมู่ 10 ต.แม่ปะ องแม่สอด จ.ตาก พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองของพืชไร่ โดยเฉพาะข้าวโพด ที่ฟุ้งกระจาย ซึ่งได้ร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรมนานเกือบครึ่งปี

นายจรินทร์ ศรีนวล อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 814 ม.10 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 1 ในผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว เปิดเผยว่า ปัญหาโกดังสินค้าเก็บ พืชไร่ ตนและชาวบ้าน ได้มีหนังสือร้องเรียนไปทุกระดับ เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลปัญหา หาทางแก้ปัญหา ทั้งในส่วนของ อบต.แม่ปะ เจ้าของพื้นที่ ระดับอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตาก โดยได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านยังคงย่ำอยู่กับที่ ไม่ใส่ใจกับผลกระทบอย่างจริงจัง

โดยโกดังนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ชาวบ้านได้ร้องขอให้มีการทำประชาพิจารณ์คนในชุมชนมาตั้งแต่เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปลายปี 2549 แต่ก็เงียบ เพราะคนของรัฐในหมู่บ้านไม่ใส่ใจปัญหาของชุมชน จนกระทั่งมีการเปิดโกดังทั้งที่ยังไม่ได้ขออนุญาตตามกฎหมาย ซึ่งทันทีที่มีการดำเนินกิจการ ปัญหามลพิษจากการฟุ้งกระจายของฝุ่นผงพืชไร่ ได้กระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้าน เด็กๆคนชราหลายคนมีอาการผื่นคัน บ้านเรือนเครื่องใช้ที่อยู่ในที่โล่งแจ้งมีฝุ่นผงตกเปื้อนอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ถนน ค.ส.ล.ของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของชาวบ้าน สร้างเมื่อปี พ.ศ.2549 หลังจากที่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อที่บรรทุกพืชไร่ผ่านเข้าออกประจำ เกิดชำรุดทรุดตัว ซึ่งเป็นเพียงบางส่วนของปัญหาที่สามารถจับต้องได้ แต่ปัญหาส่วนหนึ่งก็คือโกดังกับชุมชนไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะวันนี้มันเริ่มกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้าน เด็กๆ และคนชราจะต้องมาป่วยเพราะฝุ่นผลจากข้าว และข้าวโพด

“เราต้องการให้โกดังสุ่นเฮียง หยุดใช้ลานตากข้าวและข้าวโพด ส่วนการใช้โกดังเก็บพืชไร่ก็เป็นไปตามปกติตามที่ร้องขอก่อสร้างอาคาร วันนี้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากฝุ่นผง ถนนพัง ต่อไปคงจะต้องใช้ผ้าปิดจมูกอยู่บ้าน ถนนปัจจุบันก็จะมีแต่หลุมบ่อ ใครรับผิดชอบ”

ในขณะที่ นางสาวอนงค์ เรืองชัยศิวเวท เจ้าของโกดังสุ่นเฮียง บอกว่า ได้ยื่นคำขออนุญาต ทั้งในส่วนของการก่อสร้าง และดำเนินการไปตามระเบียบของกฎหมายทุกอย่างในส่วนของท้องถิ่นและจังหวัด เมื่อมีการร้องเรียน ว่า ได้รับผลกระทบจากฝุ่นผงจากการพลิกกลับพืชไร่ ก็ได้สร้างแนวกันลมกันฝุ่นฟุ้ง (แสลม) สูงจากรั้วประมาณ 5 เมตร ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานการแก้ปัญหา เพื่อป้องกันและลดฝุ่นที่ฟุ้งไม่ให้กระจายไปทางใต้ลม

แต่กลุ่มผู้ร้องก็โจมตีอีกว่าท่อเหล็กที่ใช้ยึดแสลมจะเป็นอันตราย บดบังทัศนียภาพ ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ได้มีหนังสือให้แก้ไข และเราก็ยินดีปฏิบัติตาม แต่ดูแล้ว นายจรินทร์ และผู้ที่ร้องเรียนต้องการให้ปิดกิจการสถานเดียว ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างเราทำตามระเบียบกฎหมายทุกอย่าง

นายสุรพงษ์ พินิจเกียรติ วิศวกร สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวว่า ปัญหาระหว่างโกดังสุ่นฮียง และชาวบ้านนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกฝ่ายต้องพบกันครึ่งทาง อย่าเอาชนะกันอย่างเดียว บางอย่างเป็นเรื่องของกฎหมายที่สามารถทำได้ บางอย่างก็ต้องปรับเพื่อให้เข้ากับชุมชน ทั้งนี้ชุมชนและผู้ประกอบการก็ควรมองถึงกรอบกฎหมายเช่นเดียวกัน เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์

ทั้งนี้ ขณะที่มีกำลังหารืออยู่นั้น ชาวบ้านได้ร้องขอให้เข้าไปตรวจภายในบริเวณโกดัง และลานตากพืชผลทางการเกษตร ว่ายังคงดำเนินกิจการตามปกติหรือไม่อย่างไร แต่นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ชาวบ้านเข้าไปในโกดัง เพราะเกรงว่าจะมีทรัพย์สินสูญหาย ทำให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมรับฟังอยู่นั้นโห่ร้องกับคำพูดของนายสุรพงษ์ ว่าเป็นการดูถูกชาวบ้าน

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมร่วมกันทั้งฝ่ายโกดังสุ่นเฮียงและกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 50 คน โดยมีอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ,อบต.แม่ปะ, และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ข้อสรุปว่า นางสาวอนงค์ เรืองชัยศิวเวท เจ้าของโกดังสุ่นเฮียง รับว่าจะทำการรื้อแนวกันฝุ่น (แสลม) ภายใน 15 วัน ตามคำร้องขอ ส่วนกรณีจะให้ยกเลิกลานตากพืชไร่นั้น นายสุรพงษ์ ชี้แจงว่าจะต้องนำไปหารือผู้ใหญ่ต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น