xs
xsm
sm
md
lg

วอนชาวเชียงใหม่งดเผาช่วง ก.พ.-มี.ค.51 สกัดวิกฤตหมอกควัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เชียงใหม่เดินหน้าป้องกันปัญหาหมอกควันหวั่นเกิดเหตุซ้ำ ปี 50 ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาที่โล่งทุกชนิดระหว่าง ก.พ.-มี.ค.นี้ พร้อมตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุระงับการเผาตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งเป้าไม่ให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานแม้แต่วันเดียว ทั้งนี้ ยอมรับว่า ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาได้หากทุกฝ่ายไม่ร่วมป้องกันปัญหาจริงจังและมีการลักลอบเผา

นายสัญญา ทุมตะขบ นักวิชาการสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจากการที่ปี 2551 จังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศให้ปัญหาหมอกควันเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข ขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการกำหนดกรอบการดำเนินงานโดยการจัดทำแผนยุทธศาสตร์เสร็จและมีการนำเสนอต่อนายอำเภอทั้ง 24 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติแล้วในการที่จะลดการเผาทุกชนิดลงให้ได้

โดยปีนี้มีการตั้งเป้าหมายว่าจะไม่ให้มีวันใดที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในบรรยากาศเกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร แม้แต่วันเดียว และลดจำนวนผู้ป่วยจากผลกระทบหมอกควันที่ต้องเข้ารับการรักษาลงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550 ซึ่งเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมานั้นมีผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาถึงประมาณ 9,000 คน

สำหรับสถานการณ์หมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่นั้น ในปีนี้ถือว่าดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากล่าสุดที่มีฝนหลงฤดูตกลงมาในพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาขึ้นได้ จึงมีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายที่จะต้องร่วมมือกันในการเฝ้าระวังป้องกันปัญหาอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ อยากขอความร่วมมือจากประชาชนให้งดการเผาทุกชนิดและการเผาเศษกิ่งไม้ใบไม้ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการขอความร่วมมือผ่านไปทางผู้ใหญ่บ้านทุกแห่งให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องผ่านทางเสียงตามสาย

โดยในส่วนของกิ่งไม้ใบไม้นั้น ขอให้กองเก็บไว้ก่อน ซึ่งเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ หากจำเป็นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมารับไปกำจัดด้วยการทำเป็นปุ๋ยหมัก

นอกจากนี้ นายสัญญา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตั้งสายด่วนรับแจ้งเหตุหากพบการเผาทุกชนิดที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-409345 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเมื่อได้รับแจ้งเหตุแล้วจะประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งเหตุให้เข้าดำเนินการระงับเหตุทันที โดยในการรับแจ้งเหตุแต่ละครั้งจะพยายามใช้เวลาในการดำเนินการแก้ไขปัญหาระงับเหตุให้แล้วเสร็จภายใน 30 นาที

ทั้งนี้ ในพื้นที่แต่ละอำเภอก็จะมอบหมายให้นายอำเภอเป็นผู้รับผิดชอบดูแลในระดับพื้นที่โดยตรง ซึ่งนอกจากการเข้าไประงับเหตุแล้วยังจะมีการสืบหาผู้ที่ทำการเผาด้วยเพื่อทำการตักเตือนทำความเข้าใจและหากพบมีการก่อเหตุซ้ำก็อาจจะมีความจำเป็นต้องนำมาตรการทางกฎหมายมาลงโทษ ซึ่งเชื่อว่าการดำเนินการนี้จะช่วงป้องกันการเกิดปัญหาได้ดีในระดับหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น