พิษณุโลก – ตามรอย “สี่แยกอินโดจีน” บนแผ่นดินพิษณุโลก ภายใต้ยุทธศาสตร์ East-West /North-South Economic Corridor ล่าสุด รองผู้ว่าฯสองแคว บุก อบจ.ของบ “ปรับภูมิทัศน์สี่แยกอินโดจีน” สร้างศูนย์สินค้าโอทอป-อาคารสถาปัตยกรรม 5 ชาติ รองรับนักท่องเที่ยว-คนผ่านทาง ขณะที่โครงการก่อสร้างศูนย์ลอจิสติกส์ พัก-กระจายสินค้า 4 มุมเมืองยังไร้อนาคต “เสี่ยดี้” ชี้ต้องรอสมัยหน้า
ยุทธศาสตร์การพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงเหนือ-ใต้/ตะวันออก-ตะวันตก อันหมายถึงการเชื่อมโยง สาธารณรัฐประชาชนจีน-พม่า/ลาว-ไทย ทะลุออกมาเลย์ หรือสิงคโปร์ หรือท่าเรือแหลมฉบัง กับเส้นทางจากท่าเรือด่าหนัง-สปป.ลาว-มุกดาหาร ขอนแก่น พิษณุโลก อ.แม่สอด จ.ตาก-พม่า เพื่อออกท่าเรือมะละแหม่ง หรือท่าเรือย่างกุ้ง หรือทะลุไปยังอินเดีย บังลาเทศ หรืออาจไปไกลถึงยุโรปได้นั้น
ในเชิงภูมิศาสตร์ ทั้ง 2 เส้นทาง จะมีจุดตัดที่ “พิษณุโลก” ที่หลายปีที่ผ่านมามีการนำป้ายบอกทางที่ระบุว่าเป็น “สี่แยกอินโดจีน” มาติดตั้งไว้บริเวณจุดตัดนอกเมืองสองแคว บ่งบอกว่า ที่นี่เป็นศูนย์กลางของ East–West Economic Corridor และ North-South Economic Corridor ที่จากจุดนี้สามารถเดินทางไปตามเมืองต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ทำนองเดียวกันก็สามารถขนสินค้าจากเมืองต่างๆ ผ่านไปยังตลาดเป้าหมายได้อย่างสะดวกด้วย
ด้วยภูมิศาสตร์ของจุดตัดดังกล่าว กว่า 10 ปีที่ผ่านมา หลายหน่วยงาน-หลายรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ต่างก็มองเห็นถึงศักยภาพ และกำหนดแผนงานที่จะผลักดันให้เป็นศูนย์กระจาย-ขนถ่ายสินค้าและคน
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของ “ผู้จัดการ” จนถึงขณะนี้ นอกจากแนวถนนตามยุทธศาสตร์ East–West Economic Corridor จะติดปัญหาการตัดเส้นทางผ่านพื้นที่ป่าอนุรักษ์ (ผู้จัดการรายวัน หน้า 10 ฉบับวันที่ 30 ม.ค.51) แล้ว สี่แยกอินโดจีนยังมีเฉพาะป้ายบอกทาง กับแผนงานในกระดาษเป็นหลัก
เมื่อต้นเดือนมกราคม 51 นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ในฐานะ ประธานประชุมติดตามผลการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาพื้นที่สี่แยกอินโดจีนของจังหวัดพิษณุโลก ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามและภาคเอกชนประชุม เพื่อร่วมกันผลักดันให้เกิดโครงการสี่แยกอินโดจีนให้เป็นรูปธรรม หลังจากหลายคนติว่ามีเพียงแค่ป้ายและไม่มีความคืบหน้าใดๆ
นายสมบูรณ์ ระบุว่า โครงการสี่แยกอินโดจีนที่ต้องมีการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสี่แยกดินโดจีน ต.สมอแข อ.เมืองพิษณุโลก จะต้องคืบหน้า ให้ดีควรเสร็จในปี 51 เชื่อว่าหลังที่มีการตั้งรัฐบาล จะต้องดำเนินการผลักดันกับรัฐบาลใหม่ให้ช่วยพัฒนาจังหวัดพิษณุโลก เป็นเมืองศูนย์กลางสี่แยกอินโดจีนอย่างแท้จริง ทั้งเรื่องงบประมาณและยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างปรับภูมิทัศน์บริเวณสี่แยกอินโดจีนจังหวัดพิษณุโลกได้ประสานขอใช้พื้นที่ชั่วคราวจำนวน 9 ไร่จากกรมทางหลวง เชื่อว่าได้รับอนุญาตจากกรมทางหลวงให้ใช้พื้นที่ได้
ขณะนี้ โยธาธิการและผังเมืองพิษณุโลก ได้ออกแบบแปลนไว้แล้ว และมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามได้ออกแบบกิจกรรมภายใน ประกอบด้วย การสร้างอาคารศูนย์ข้อมูล ศูนย์วัฒนธรรมประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลวัฒนธรรม 4 ประเทศ (จีน เวียดนาม พม่า และมาเลเซีย) ลานแสดงวัฒนธรรม สถานที่จำหน่ายอาหารและสินค้าโอทอปของทั้ง 5 ประเทศ
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามออกแบบแลนด์มาร์ก เป็นหลักหมุดบอกพิกัดละติจูด-ลองจิจูด ของสี่แยกอินโดจีนไว้ตรงกลางอาคารศูนย์วัฒนธรรม 5 ประเทศ ตั้งเป้ามีผู้เข้าชมและจอดพักผ่อนไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 คน
ส่วนงบประมาณในการก่อสร้าง เบื้องต้นได้ประสานกับนายธวัชชัย กันนะพันธุ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก (อบจ.) มั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างเบื้องต้น 10 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าถมดินบริเวณที่เป็นบึงประมาณ 4 ล้านบาท ค่าก่อสร้างและตกแต่งอาคารสถานที่ประมาณ 6 ล้านบาท และค่าบริหารจัดการประมาณ 1 ล้านบาท
“คาดว่าปี 2551 นี้จะเห็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบริเวณสี่แยกอินโดจีนนี้เสร็จเป็นรูปธรรมแน่นอน”
นายณัฏฐวุฒิ คงเวชกุล ผู้อำนวยการแขวงการทางพิษณุโลก เปิดเผยว่า ตนได้ประสานกับกรมทางหลวงให้เร่งรัดมอบพื้นที่จำนวน 9 ไร่ ตามที่ผู้ว่าฯ พิษณุโลก ต้องการใช้สร้างโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณสี่แยกดินโดจีน ทั้งนี้พิษณุโลกเป็นที่ตั้งอยู่บนจุดตัดโครงการ East-West /North-South Economic Corridor บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 และหมายเลข 11 ล่าลุด คณะฝ่ายทำงานของกรมทางหลวงตรวจสอบ และเห็นชอบในหลักการมอบพื้นที่แก่จังหวัดแล้ว คิดว่าไม่มีปัญหา เหลือเพียงอธิบดีกรมทางหลวงเซ็นอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น เชื่อว่าทันเวลาการอนุมัติของบประมาณจาก อบจ.พิษณุโลก
รองผู้ว่าฯสองแคววิ่งหานายก อบจ.พิษณุโลก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้หารือร่วมกับนายธวัชชัย กันนะพันธุ์ นายกอบจ.พิษณุโลก ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ต.สมอแข จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามความคืบหน้าในการขอรับการสนับสนุนงบในโครงการดังกล่าวอีกครั้ง
นายธวัชชัย กันนะพันธุ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ในหลักการของ อบจ.พิษณุโลก พร้อมสนับสนุนในเรื่องงบประมาณตามที่จังหวัดขอให้ช่วย แต่เรื่องดังกล่าว จะต้องผ่านสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสมาชิก อบจ.พิษณุโลก จะเห็นด้วยหรือไม่ สำหรับตนไม่สามารถอนุมัติเงินจ่ายขาดสะสมได้ทันที เพราะกฎหมายได้ระบุว่า ห้ามนำเงินงบจ่ายขาดสะสมไปใช้กิจกรรมอุดหนุน เว้นแต่ใช้ในกิจกรรมของ อบจ.เองเท่านั้น ฉะนั้นกรณีจังหวัดขอสนับสนุนงบประมาณ 10 ล้านต้องผ่านสภาก่อน ซึ่งกำลังเรียกประชุมสภาเร็วๆ นี้ ก่อนที่สมาชิกสภา อบจ.จะหมดวะระในวันที่ 8 มีนาคม 51
อย่างไรก็ตามในโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณสี่แยกอินโดจีน ที่ระบุว่า จะต้องถมดิน 4 ล้านบาท ตนคิดว่าไม่เหมาะสม เชื่อว่างบประมาณ 1 ล้านบาท น่าจะเพียงพอ เนื่องจากศูนย์เครื่องจักรกลของ อบจ.พิษณุโลก มีรถบรรทุกดินจำนวนมาก ซึ่งจ่ายเงินแค่ค่าน้ำมันก็สามารถปรับปรุงพื้นที่สำเร็จ สามารถนำเงินไปพัฒนาอย่างอื่น และเชื่อว่ารองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกคงเห็นด้วย
นายก อบจ.พิษณุโลก เปิดเผยอีกว่า ส่วนโครงการศูนย์ลอจิสติกส์ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จะโอนงาน “Logistic” ให้ อบจ. พิษณุโลก รับผิดชอบ เพื่อพัฒนาสี่แยกอินโดจีนให้เป็นรูปธรรม และได้บรรจุอยู่ในแผน 3 ปีของ อบจ.พิษณุโลก ว่าด้วยการก่อสร้างศูนย์พักรถและกระจายสินค้า 4 จุดหรือ 4 มุมเมือง มูลค่าโครงการประมาณ 80 ล้านบาท ตามที่อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวรออกแบบไว้แล้วนั้น ยังติดปัญหาหลายอย่าง เช่น ยังไม่มีภาคเอกชนรายใดบริจาคพื้นที่ให้ และตนเชื่อว่า คงไม่เหมาะที่จะนำเงินงบประมาณไปซื้อที่ดิน เพื่อก่อสร้าง แต่ประเด็นสำคัญ คือ วาระของสมาชิก อบจ.จะหมดลงวันที่ 8 มีนาคม 51 และตำแหน่งนายกอบจ.พิษณุโลกจะหมดในเดือนสิงหาคม 51 ทำให้อาจจะต้องรอสมัยหน้า