ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ว่าที่ ส.อบจ.บุรีรัมย์ กลุ่ม “เมียยี้ห้อย” ถูกร้องทุจริตเลือกตั้ง ดอดเข้าชี้แจง กกต.บุรีรัมย์ แก้ต่างข้อหาจ้างวาน ปชช.ส่วน “กรุณา ชิดชอบ” ว่าที่นายก อบจ.เมีย “ยี้ห้อย” ยังไม่โผล่นำพยานหลักฐานเข้าแก้ข้อกล่าวหา ขณะที่ กกต.บุรีรัมย์ เข้ม คุมคนเข้า-ออก บนสำนักงานต้องลงชื่อ แลกบัตรประจำตัว นอกจากนี้ 2 ผู้สมัคร ส.อบจ.บุกร้อง กกต.ค้านประกาศผลเลือกตั้งเพิ่มอ้างมีการทุจริตซื้อเสียงและข่มขูพยาน
ช่วงบ่ายวันนี้ (23 ม.ค.) นายปริญญา สมานประธาน ว่าที่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บุรีรัมย์ เขต 5 อ.เมือง จ.บุรีรัมย์, นายอุดม จันทวงศ์ ว่าที่ ส.อบจ.เขต 1 อ.สตึก, นายโกวิทย์ นาวีสัมพันธ์ ว่าที่ ส.อบจ.เขต 1 อ.โนนดินแดง ได้เดินทางเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาจ้างวานประชาชนกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ โดยนำพยานหลักฐานและพยานบุคคลมาชี้แจงต่อพนักงานฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.จังหวัด ด้วย
ส่วน นางกรุณา ชิดชอบ ว่าที่นายก อบจ.บุรีรัมย์ ภรรยา นายเนวิน ชิดชอบ ยังไม่เดินทางเข้ามาชี้แจง แก้ข้อกล่าวหากับฝ่ายสืบสวนสอบสวนของ กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ผู้สมัคร ส.อบจ.ในกลุ่มของ นางอุษณีย์ ชิดชอบ ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 3 พี่สาว นายเนวิน ชิดชอบ ได้เข้าร้องเรียนต่อ กกต.จังหวัด ว่า กลุ่ม นางกรุณา ชิดชอบ ผู้สมัครนายก อบจ.ทำการจ้างวานให้ประชาชนมาลงสมัคร ส.อบจ.เพื่อให้ผู้สมัคร ส.อบจ.ในกลุ่มของตนเองได้หมายเลข 15 ตรงกับหมายเลขผู้สมัครนายก อบจ.ทั้งหมดทุกเขตเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.จังหวัดสืบสวนในเบื้องต้นพบข้อมูลหลักฐานว่ามีมูลจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นางกรุณา และพวก
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ม.ค.นางกรุณา ชิดชอบ ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 15 และ ทีมผู้สมัคร ส.อบจ.หมายเลข 15 ทั้ง 8 คน ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่ กกต.จังหวัดแล้ว พร้อมทั้งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และพร้อมจะนำพยานหลักฐานมายืนยันต่อ กกต.จังหวัดเพื่อแก้ข้อกล่าวหา ในวันนี้ (23 ม.ค.)
ด้าน นายเกษม วัฒนธรรม ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทาง กกต.จังหวัด จะให้โอกาสผู้ถูกร้องเรียนทั้งหมด ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำมาแก้ข้อกล่าวหาตามข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะพิจารณาส่งสำนวนเรื่องร้องเรียนให้ กกต.กลางพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยรอบบริเวณสำนักงาน กกต.จ.บุรีรัมย์ มีการจัดกำลังตำรวจ ชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 2 นาย และเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) 2 นาย รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง
โดยใครจะเข้า-ออกภายในสำนักงาน กกต.จะต้องแจ้งลงชื่อการมาติดต่องาน และแลกบัตรประจำตัวประชาชนไว้ก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น หลังมีกลุ่มการเมืองใหญ่ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ขนชาวบ้านประท้วงขับไล่ กกต.บุรีรัมย์ หลายครั้งก่อนหน้านี้ ประกอบกับช่วงนี้ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ใกล้สำนักงาน กกต.บุรีรัมย์ มีการจัดงานกาชาดประจำปี 2551 ด้วย
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนี้ (23 ม.ค.) นายมนูญ มนูขจร ผู้สมัคร ส.อบจ.บุรีรัมย์ หมายเลข 16 เขต 1 อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้นำพยาน 3 คน ที่อ้างว่าถูก นายอภิรักษ์ ลิ้มรักษ์ ผู้สมัครหมายเลข 15 คู่แข่ง ข่มขู่ คุกคาม และได้รับเงินซื้อเสียงจากผู้สนับสนุนผู้สมัคร และ บุญญาพร เก็งเกตุ ผู้สมัคร ส.อบจ.หมายเลข 16 เขต 1 อ.คูเมือง ได้นำเอกสารใบปลิวโจมตีกล่าวร้ายให้เสียหาย โดยกล่าวหา นายสมศักดิ์ รัตนยิ่งยง ผู้สมัครหมายเลข 15 คู่แข่ง ได้มีการซื้อสิทธิ ขายเสียง เข้าร้อง กกต.บุรีรัมย์ เพื่อคัดค้านการประกาศผลเลือกตั้งส.อบจ.บุรีรัมย์ ทั้ง 2 เขต เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
นายเกษม วัฒนธรรม ประธาน กกต.บุรีรัมย์ กล่าวภายหลังรับเรื่องร้องคัดค้าน ว่า จะได้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ กกต.บุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาเรื่องร้องว่าเข้าข่ายการกระทำผิดหรือไม่ หากเข้าหลักเกณฑ์ก็จะมอบหมายให้อนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าว ส่วนกรณีการข่มขู่พยานก็ได้แนะนำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางคดีในอีกทางหนึ่งด้วย