พะเยา - ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 ค่ายพญางำเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เข้าจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางไม้สัก ไม้กะยาเลย และไม้เต็งกว่า 100 ท่อนที่บ้านแม่ต๋ำน้อย ที่ผู้ต้องหาสร้างเป็นบ้านหวังอำพรางตา เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่
วันนี้ (21 ม.ค.) เวลา 11.00 น.พ.ต.ท.จรินทร์ ถ้ำแก้ว รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 ค่ายพญางำเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่พะเยา 3 แม่กา และเจ้าหน้าที่หน่วยประสานงานป้องกันและปราบปรามการทำลายทรัพยากรป่าไม้ (นปม.) จ.พะเยา กว่า 50 นาย นำหมายศาลจังหวัดพะเยาที่ 21 /2551 ลงวันที่ 20 มกราคม 2551 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 18 บ้านแม่ต๋ำน้อย ต.แม่กา อ.เมืองพะเยา ซึ่งเป็นบ้านของ นายชาติชาย จ๋าวกิตติวัฒนา ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า หลับสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ที่ลักลอบตัดจากป่าในหมู่บ้าน หวังอำพรางตา เพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่
จากการตรวจค้นพบไม้กะยาเลย และไม้เต็งจำนวน 50 ท่อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20-25 นิ้ว ที่กำลังสร้างเป็นบ้าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบไม้สักท่อนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16-18 นิ้ว อีกกว่า 50 ท่อน ที่ถูกตัดทิ้งไว้ในป่าข้างทาง
จากการเข้าตรวจค้นในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดไม้ของกลางได้ทั้งหมดกว่า 100 ท่อน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินค่าไม้เป็นตัวเงินได้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการตรวจวัดปริมาตรไม้ของกลางทั้งหมดก่อน
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าได้นำไม้ดังกล่าวสร้างเป็นบ้านเพื่ออยู่อาศัย เนื่องจากปีนี้เป็นปีทองของชาวไทยเผ่าเย้า จึงทำให้มีการตัดไม้เพื่อสร้างบ้านกันมากในระยะนี้ โดยยืนยันว่า ไม่มีนายทุนมาจ้างวานให้สร้างบ้านเพื่ออำพรางตาเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายชาติชาย จ๋าวกิตติวัฒนา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพะเยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนไม้ของกลางทั้งหมด จะเร่งชักลากเพื่อนำไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่พะเยา 3 แม่กา ต่อไป
พ.ต.ท.จรินทร์ ถ้ำแก้ว รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื้อคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากมีพฤติการสร้างบ้านที่ผิดไปจากปกติของชาวไทยภูเขา ที่สร้างเป็นหลังใหญ่ มีเสาขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยคาดว่า น่าจะเป็นนายทุนมาจ้างวานให้สร้างเพื่ออำพราง เจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้พอจะทราบตัวแล้วว่าเป็นกลุ่มใด และทราบอีกว่าเป็นคนในพื้นที่จังหวัดพะเยาด้วย เจ้าหน้าที่จะได้เร่งขยายผล สืบหาและจับกุมตัวนายทุนผู้จ้างวานเพื่อดำเนินคดีต่อไป
