เชียงราย – กรรมการสอบสวนคดี “ยงยุทธ” เริ่มเดินหน้าสอบปากคำพยานผู้ร้อง ล่าสุด พยานบางคนถอนตัวหลังเด็กพรรคชาติไทยถอนคำร้อง พร้อมเตรียมสอบพยานฝ่าย “ยุทธ ตู้เย็น” ต่อในวันถัดไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า วันนี้ (17 ม.ค.) นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทาง กกต.กลาง ให้ทำหน้าที่สอบสวนแทน พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง ผบช.ส.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐศักดิ์ นานาวัน ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนวินิจฉัยที่ 5 กกต.และคณะสอบสวนที่มีพนักงานอัยการ เข้าร่วม รวมจำนวน 5 คน เดินทางลงพื้นที่เชียงราย
ทั้งนี้ เพื่อเร่งสอบสวนคดีผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคชาติไทย กล่าวหาร้องเรียน นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน สั่งซื้อเสียงเลือกตั้ง
คณะสอบสวน กกต.ได้ใช้สถานที่ชั้น 2 สำนักงาน กกต.เชียงราย เป็นสถานที่สอบสวนพยาน โดยมีการเรียกสอบสวนพยานฝ่ายผู้ร้อง ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน พยานปากสำคัญ ที่เคยออกมาร้องเรียนและขอความคุ้มครองจากตำรวจภูธร จ.เชียงราย หลังถูกคนใกล้ชิดนายยงยุทธ ข่มขู่ให้ถอนตัวจากคดี ทั้งยังมีการเรียกสอบสวนกำนันในพื้นที่อีก 1 ราย รวมทั้งพยานอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการสอบสวนได้ทำกันภายใน ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์
นายวินัย เลิศรัตนวงศ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.เชียงราย กล่าวว่า การสอบสวนในส่วนนี้จะสอบในส่วนของพยานฝ่ายผู้ร้องก่อน ซึ่งพบว่าพยานบางส่วนที่ได้นัดไว้แล้วไม่มาตามนัด ทำให้การสอบสวนยังไม่สมบูรณ์ ส่วนการสอบสวนพยานฝ่ายนายยงยุทธ คาดว่า จะเริ่มขึ้นในวันถัดไป ส่วน กกต.เชียงราย มีหน้าที่นำพาคณะไปยังสถานที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี และมีความเชื่อมโยงในการสอบสวนเท่านั้น
ด้าน นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า การสอบสวนจะมุ่งเน้นการสอบสวนพยานปากเดิมที่ทางตำรวจสันติบาลได้เคยสอบไว้แล้ว ไม่น่ามีปัญหา หรือสร้างความหนักใจให้ทั้งสิ้น จะทำาการสอบสวนอย่างยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย และจะรีบรายงานผลการสอบสวนพยานทุกปากให้ กกต.กลาง รับทราบทันที
มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พยานฝ่ายผู้ร้องหลายคนที่ไม่ยอมมาให้ปากคำตามนัด เนื่องจากมีบางส่วนได้ถอนตัวไม่อยากจะเข้ามาเป็นพยานร่วมในคดี ภายหลังจากนายวิจิตร ยอดสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 3 พรรรคชาติไทย ได้เข้ายื่นถอนคำร้องคัดค้านที่ กกต.เชียงราย ทำให้น้ำหนักคดีการสอบสวนนายยงยุทธ อ่อนลงไป
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า วันนี้ (17 ม.ค.) นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทาง กกต.กลาง ให้ทำหน้าที่สอบสวนแทน พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง ผบช.ส.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐศักดิ์ นานาวัน ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนวินิจฉัยที่ 5 กกต.และคณะสอบสวนที่มีพนักงานอัยการ เข้าร่วม รวมจำนวน 5 คน เดินทางลงพื้นที่เชียงราย
ทั้งนี้ เพื่อเร่งสอบสวนคดีผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 3 พรรคชาติไทย กล่าวหาร้องเรียน นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน สั่งซื้อเสียงเลือกตั้ง
คณะสอบสวน กกต.ได้ใช้สถานที่ชั้น 2 สำนักงาน กกต.เชียงราย เป็นสถานที่สอบสวนพยาน โดยมีการเรียกสอบสวนพยานฝ่ายผู้ร้อง ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน พยานปากสำคัญ ที่เคยออกมาร้องเรียนและขอความคุ้มครองจากตำรวจภูธร จ.เชียงราย หลังถูกคนใกล้ชิดนายยงยุทธ ข่มขู่ให้ถอนตัวจากคดี ทั้งยังมีการเรียกสอบสวนกำนันในพื้นที่อีก 1 ราย รวมทั้งพยานอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการสอบสวนได้ทำกันภายใน ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์
นายวินัย เลิศรัตนวงศ์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.เชียงราย กล่าวว่า การสอบสวนในส่วนนี้จะสอบในส่วนของพยานฝ่ายผู้ร้องก่อน ซึ่งพบว่าพยานบางส่วนที่ได้นัดไว้แล้วไม่มาตามนัด ทำให้การสอบสวนยังไม่สมบูรณ์ ส่วนการสอบสวนพยานฝ่ายนายยงยุทธ คาดว่า จะเริ่มขึ้นในวันถัดไป ส่วน กกต.เชียงราย มีหน้าที่นำพาคณะไปยังสถานที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี และมีความเชื่อมโยงในการสอบสวนเท่านั้น
ด้าน นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า การสอบสวนจะมุ่งเน้นการสอบสวนพยานปากเดิมที่ทางตำรวจสันติบาลได้เคยสอบไว้แล้ว ไม่น่ามีปัญหา หรือสร้างความหนักใจให้ทั้งสิ้น จะทำาการสอบสวนอย่างยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย และจะรีบรายงานผลการสอบสวนพยานทุกปากให้ กกต.กลาง รับทราบทันที
มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พยานฝ่ายผู้ร้องหลายคนที่ไม่ยอมมาให้ปากคำตามนัด เนื่องจากมีบางส่วนได้ถอนตัวไม่อยากจะเข้ามาเป็นพยานร่วมในคดี ภายหลังจากนายวิจิตร ยอดสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 3 พรรรคชาติไทย ได้เข้ายื่นถอนคำร้องคัดค้านที่ กกต.เชียงราย ทำให้น้ำหนักคดีการสอบสวนนายยงยุทธ อ่อนลงไป
