กกต.มอบเลขาฯ ตั้งเรื่องสอบ “สำนวนรั่ว” เตรียมเรียก “ชัยยะ” ชี้แจงในฐานะผู้กล่าวหาว่าเสียหายอย่างไร ด้าน “สุทธิพล” เผยต้องศึกษากฎหมายให้ชัดก่อน ขณะที่ “สมชัย” ยันไม่ขัดข้องแต่ยันไม่ทำสำนวนหลุดแน่
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกต.ได้มีมติให้นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.ไปดำเนินการตั้งเรื่องกรณีที่นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายต้านคอร์รัปชัน ให้ กกต.ตรวจสอบกรณีที่มี กกต.คนหนึ่งไม่คืนสำนวนทุจริตเชียงราย ให้กับตำรวจสันติบาล จนเป็นเหตุให้เอกสารรั่วไปถึงมือนายยงยุทธ ติยะไพรัช ก่อนที่มารับทราบข้อกล่าวหานั้น ตนขอถามหน่อยว่า กกต.เรามีเท่ากันหมดไม่มีใครเป็นใหญ่ และประธาน กกต.ก็ไม่ใช่หัวหน้าจะมาตั้งเรื่องสอบได้อย่างไร กกต.จึงได้มีมติมอบหมายให้นาย สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ ไปดำเนินการตั้งเรื่องเข้ามา ซึ่งตนเห็นว่าต้องใช้คนนอกไม่ใช่คนในองค์กร เพราะว่าคนในองค์กรก็เป็นลูกน้องเราหมดจะให้เขามาสอบได้อย่างไร
นางสดศรี ยังกล่าวอีกว่า กรณีนี้เราก็ต้องเชิญ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล รอง ผบช.ส.มาชี้แจงในฐานะผู้กล่าวหาว่าได้รับความเสียหายกรณีนี้อย่างไร สำนวนรั่วไปได้อย่างไร ออกมาอย่างไร เพราะจริงแล้วสำนวนก็อยู่ที่ พล.ต.ต.ชัยยะด้วยเหมือนกัน จะมากล่าวหาว่ารั่วโดย กกต.ก็ต้องพิสูจน์กันว่ารั่วโดย กกต.จริงหรือไม่ ทั้งนี้ พล.ต.ต.ชัยยะ ซึ่งเป็นผู้เปิดประเด็นก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า มีหลักฐานอะไรหรือไม่ ที่ว่านายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.นำไปเปิดเผย หรือรั่วไปอย่างไร ซึ่งก็อาจจะถูกนายสมชัยฟ้องร้องก็เป็นไปได้
ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ตนได้รับมอบหมายให้สำนักกฎหายและคดีไปศึกษากรณีดังกล่าวว่า สามารถดำเนินการได้หรือไม่ เพราะหากมีการตรวจสอบก็ต้องตรวจสอบ กกต. ซึ่งสำนักงานไม่มีอำนาจเหมือนกันการตรวจสอบพนักงาน กกต.ทั่วไป ทั้งนี้ ตนอยากให้ กกต.ได้คุยกันเพราะที่ผ่านมานายสมชัยก็ออกมาระบุชัดเจนว่าไม่ได้รั่วมาจากท่าน ขณะนี้ยังไม่มีออกมายืนยันว่าได้เอกสารจากใคร ดังนั้นต้องให้เวลาในการศึกษากฎหมาย ซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะศึกษากฎหมายได้เร็วแค่ไหน เราไม่ได้วางกรอบให้เขา เพราะเรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลา
ส่วน นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า เรื่องนี้ กกต.ก็ได้มีการคุยกัน ตนก็บอกไปว่าไม่ขัดข้องจะดำเนินการอย่างไรก็ทำ ไม่ว่ากัน ขอยืนยันว่าสำนวนหลุดหรือสำนวนรั่วนั้นไม่ได้รั่วจากตนแน่นอน แต่ยอมรับว่าไม่ได้คืนสำนวนสันติบาลจริง เพราะเข้าเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนตามหน้าที่ เมื่อสอบสรุปสำนวนเสร็จก็ต้องส่งให้ กกต.เป็นผู้พิจารณา ขอถามกลับว่าคนที่มีสิทธิ์พิจารณาไม่มีสิทธิ์ที่จะนำสำนวนกลับมาดูหรืออย่างไร